ข่าวเด่น

ผบ.ซีลนำทีมสักการะ’เจ้าแม่นางนอน’ ลุยสำรวจถ้ำหลวง-เก็บอุปกรณ์ตกค้าง

เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายกมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 พลเรือตรีอาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ กองทัพเหรือ หรือหน่วยซีล ได้นำคณะเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ หน่วยซีล หน่วยกู้ภัย เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) มิสเตอร์เวิร์น อันสเวิร์ธ นักสำรวจถ้ำชาวอังกฤษ พร้อมเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องจำนวน 35 นาย เข้าไปทำการสำรวจภายในถ้ำหลวงตั้งแต่โถงแรกเข้าไปถึงโถงที่ 3 เนื่องจากยังคงมีอุปกรณ์ต่างๆ คงค้างอยู่ภายในเป็นจำนวนมากและปัจจุบันน้ำภายในถ้ำได้ลดระดับลงจนประเมินว่าสามารถเข้าไปตรวจสอบได้แล้ว

โดยคณะได้มีการรวมพลเพื่อซักซ้อมความเข้าใจตามที่ได้ประชุม จากนั้นประกอบพิธีบวงสรวงสักการะศาลเจ้าแม่นางนอนบริเวณปากถ้ำ ก่อนตรวจสอบอุปกรณ์เป็นครั้งสุดท้ายและทะยอยเดินทางเข้าไปสำรวจตั้งแต่ห้องโถงที่ 1 ตรงปากถ้ำ

โดยช่วงที่มีปฏิบัติการเจ้าหน้าที่ได้ปิดประตูรั้วด้านนอกเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไป ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้มีการเตรียมอุปกรณ์เดินถ้ำตั้งแต่ชุดที่สวมใส่ที่กันความชื้นได้ดี รองเท้าที่ใช้เดินบนพื้นที่เป็นหินขลุขละ หมวกกันกระแทก ไฟฉายส่องสว่างทั้งที่มีประจำกายและสำรอง อาหาร น้ำดื่ม กล้องถ่ายภาพทั้งภาพนิ่งและเคลื่อนไหว ฯลฯ นอกจากนี้ทางกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ขอให้ทุกนายที่เข้าไปปฏิบัติการได้พกพาถุงพลาสติกดำเข้าไปด้วยเพื่อเก็บขยะที่เกิดขึ้นภายใน ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ เช่น สายไฟฟ้า ท่ออากาศ ท่อน้ำ ถังอัดอากาศ ฯลฯ ให้คงสภาพเดิมเอาไว้

นายจงคล้าย กล่าวว่า ภาระกิจครั้งนี้เป็นเพียงการสำรวจเบื้องต้นซึ่งจะมีการจดบันทึกรายละเอียดและข้อมูลรวมทั้งบันทึกภาพอุปกรณ์ต่างๆ เอาไว้ก่อนเพื่อรอการดำเนินการในอนาคตโดยจะยังไม่มีการเคลื่อนย้ายใดๆ จากนั้นจะมีการประชุมเพื่อสรุปผลและวางแผนดำเนินการต่อไปในวันที่ 25 ม.ค.2563 ที่ศาลากลาง จ.เชียงราย

เจ้าหน้าที่คาดว่าจะใช้ระยะเวลาเข้าไปสำรวจครั้งนี้ประมาณ 6-8 ชั่วโมง ดังนั้นก่อนเข้าไปจึงการลงลายมือชื่อทุกคนเอาไว้และมีผู้ตรวจสอบบุคคลเพื่อให้มีการลงชื่อให้ครบถ้วนเมื่อถึงจุดต่างๆ รวมทั้งช่วงที่เข้าสู่ปากถ้ำและขากลับมาเพื่อไม่ให้หลงทาง เนื่องจากภายในถ้ำมีความมืดสนิทและแม้ระดับน้ำภายในถ้ำจะเหือดแห้งลงจนไม่ไหลออกสู่ปากถ้ำแต่ก็มีระยะทางลึกจะบันทึกข้อมูลเอาไว้เช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนบริเวณด้านนอกพบว่ายังคงมีนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปเดินทางไปท่องเที่ยวเพื่อชมถ้ำหลวงอย่างต่อเนื่อง โดยไปชมปากถ้ำที่มองเห็นโพรงที่ 1 ได้ และสักการะศาลเจ้าแม่นางนอน ศาลาอนุสรณ์สถานถ้ำหลวงและอนุสาวรีย์นาวาตรีสมาน กุนัน หรือจ่าแซม ผู้เสียชีวิตในปฏิบัติการช่วยเหลือทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี โดยนักท่องเที่ยวจะเดินเท้าจากถนนเข้าไประยะทางประมาณ 800 เมตร ซึ่งในปัจจุบันได้มีเอกชนบริจาครถสองแถวบริการรับส่ง ผู้สูงอายุ ผู้พิการและเด็กหรือผู้ที่จำเป็นต้องใช้รถเดินทางจำนวน 1 คัน และทางมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) ได้นำรถไฟฟ้าไปให้บริการรับส่งคนเข้าออกอีก 1 คัน ซึ่งพบว่ามีความสะดวกอย่างมากเพราะสามารถเข้าลงได้ทั้งด้านข้างและด้านหลังรวมทั้งรถไม่สูงเกินไปด้วยสร้างความประทับใจกับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก.