พลังประชารัฐปักธงเชียงรายคึกคัก – ยันเช่าใช้สถานที่ถูกต้องทั้งเชียงราย พะเยา
เมื่อวันที่ 13 ม.ค.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.เชียงราย ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย พรรคพลังประชารัฐ ได้จัดให้มีการประชุมสัมมนาและเปิดรับสมาชิกพรรคครั้งใหญ่ครั้งแรกของ จ.เชียงราย โดยมีแกนนำของพรรคพลังประชารัฐ เดินทางมาเข้าร่วม อาทิ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคเหนือ ดร.ภาคิน สมมิตรธนกุล ผอ.ยุทธศาสตร์ภาคเหนือตอนบน ฯลฯ โดยมีมวลชนเดินทางจากทั่วจังหวัดไปร่วมประมาณ 10,000 คน จนที่นั่งในห้องประชุมที่มี 3 ห้องเต็มทั้งหมด และล้นทะลักออกมาที่นั่งสนามหญ้าด้านนอก
โดยนายอุตตม กล่าวว่า การที่มีบางท่านดำรงตำแหน่งบริหารประเทศในปัจจุบันและมีตำแหน่งในพรรคด้วยนั้นไม่น่าจะเป็นปัญหา เพราะรัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลรักษาการที่ต้องหาคนที่มีความเหมาะสมเข้าทำหน้าที่ หากว่าต้องลาออกแล้วมาทำงานทางการเมืองก็จะส่งผลกระทบต่อการบริหารประเทศได้ ตนเห็นว่าการทำงานทั้ง 2 ตำแหน่ง ไม่ได้ทำให้มีส่วนได้เสียใดๆ และเห็นว่าไม่ควรเอาการเมืองมาเป็นตัวหลัก ทั้งนี้หากพรรคได้มีโอกาสเข้าไปบริหารประเทศเราก็จะมีนโยบายการพัฒนาที่ต่อยอดกันไปโดยอาจจะไม่ใช่เอาของเดิมทั้งหมด 100% เข้าไป แต่ก็มีนโยบายใหม่ๆ ที่พอจะแจ้งเป็นหัวข้อหลักได้คือนโยบายสวัสดิการประชารัฐ นโยบายเศรษฐกิจประชารัฐ และนโยบายสังคมประชารัฐ ซึ่งจะทะยอยเปิดให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป
ด้านนายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาสังคมไทยมีแต่เรื่องทะเลาะกันทำให้มีผลกระทบหนัก เมื่อรัฐบาลชุดนี้เข้ามาจะเห็นได้ว่าสถานการณ์สงบทำให้ความขัดแย้งในอดีตที่รุนแรงอย่างไม่เป็นปกติแม้แต่ในครอบครัวเดียวกันก็พูดเรื่องการเมืองไม่ได้คลี่คลายลงได้ รัฐบาลชุดนี้ยังเอาปัญหาจากความขัดแย้งมาปรับปรุงใหม่แล้วพัฒนาใช้เวลากว่า 2 ปีเพื่อให้ทันกับการแข่งขันกับประเทศต่างๆ แล้ว
ทางด้าน ร.อ.มนัส กล่าวว่า กรณีการขอใช้สถานที่ที่ จ.เชียงราย และได้รับอนุญาตนั้นถือว่าแตกต่างจากที่ จ.พะเยา เพราะเป็นสถานที่เชิงพาณิชย์ที่พรรคได้ขออนุญาตเทศบาลนครเชียงรายแล้ว แต่ที่ จ.พะเยา เป็นสนามกีฬาที่ฝนพึ่งตกแล้วเสร็จทำให้ดินมีสภาพนุ่มอาจทำให้เกิดความเสียหายได้ ซึ่งโดยความเป็นจริงแล้วก็ไม่ควรจะอนุญาต อีกประการพบว่ากรณีที่ จ.พะเยา ทางผู้บริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พะเยา ก็อนุญาตแต่ต่อมาก็มีผู้บริหารมาแจ้งไม่อนุญาตอีกลักษณะเหมือนเป็นป่าหี่มากกว่า ส่วนที่ จ.เชียงราย ในครั้งนี้เป็นการเช่าใช้สถานที่ซึ่งในเชิงพาณิชย์ของสถานที่สามารถอนุญาตให้ได้และสามารถตรวจสอบการเช่าได้ เช่นเดียวกับที่สนามสมโภช700 ปี จ.เชียงใหม่ ซึ่งหากว่าพรรคอื่นไปขออนุญาตที่ศูนย์ประชุมฯ และสนามกีฬาฯ ที่ จ.เชียงราย และเชียงใหม่ ตนเชื่อว่าก็จะเป็นลักษณะเดียวกัน
ร.อ.มนัส กล่าวด้วยว่า สำหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พื้นที่ภาคเหนือมีจำนวน 64 เขตเลือก พรรคมีโอกาสมากจำนวน 27 เขตและสามารถแข่งขันได้อีก 15 เขตคาดว่าน่าจะได้ ส.ส.กว่า 45 ที่นั่ง กรณีเฉพาะ จ.เชียงราย ซึ่งมีจำนวน 7 เขตนั้นเขตที่มีโอกาสมากที่สุดคือเขต 1 และคาดว่าจะได้ที่นั่งอีกราว 4 ที่นั่งในเขต 2 เขต 6 เขต 5 และเขต 7
ทางด้านนางรัตนา จงสุทธานามณี นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงราย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 กล่าวว่า ตนยืนยันว่าจะไม่อยู่สีใดๆ นอกจากสีเชียงราย และที่ผ่านมามีผู้พยายามจะแบ่งแยกฝ่ายว่ามีฝ่ายเผด็จการและฝ่ายประชาธิปไตยซึ่งตนเห็นว่าไม่ถูกต้องเป็นธรรมกับพวกตน เพราะเดิมสังคมเกิดปัญหาขึ้นและทาง พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ก็เข้ามาแก้ไขปัญหาจึงเสมือนเป็นฮีโร่มากกว่าจากนั้นก็นำความสงบมาให้และมีนโยบายต่างๆ ออกมามากมาย แม้แต่กรณีการสร้างเส้นทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย ที่รอคอยกันมานานหลายสิบปีและตนพยายามผลักดันมาโดยตลอดก็พึ่งมาสำเร็จในยุคของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวทีของพรรคพลังประชารัฐมีการแนะนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ครบทั้ง 7 คนประกอบด้วยเขตเลือกตั้งที่ 1 นางรัตนา จงสุทธานามณี เขตเลือกตั้งที่ 2 พ.ต.อ.รัฐพล น้อยช่างคิด เขตเลือกตั้งที่ 3 นายบุญถิ่น นวลใหม่ เขตเลือกตั้งที่ 4 นายเสงี่ยม แสนพิช เขตเลือกตั้งที่ 5 นายบัวสอน ประชามอญ เขตเลือกตั้งที่ 6 นายศักดิ์ชัย จงสุทธนามณี และเขตเขตเลือกตั้งที่ 6 นายศักดิ์ชัย จงสุทธนามณี และเขตเลือกตั้งที่ 7 นายผจญ ใจกล้า.