ข่าวประชาสัมพันธ์

กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร แก้หนี้ในระบบ ช่วยชาวบ้านไถ่ถอนที่ดินคืน รอดถูกขายทอดตลาดหวุดหวิด

เมื่อวันที่ 2 พ.ย.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงรายว่า ที่สหกรณ์การเกษตรเมืองเทิง จำกัด อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย นายนิยม สุวรรณประภา หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) สาขาจังหวัดเชียงราย ได้ดำเนินการชำระหนี้แทนเกษตรกร สมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย จำนวน 1 ราย คือ นายมอย ราชคม เกษตรกรบ้านสันชุม บ้านเลขที่ 46 หมู่ที่ 2 ตำบลเชียงเคี่ยน อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เป็นจำนวนเงิน 400,000 บาท โดยเป็นการชำระหนี้แทนจากยอดต้นเงิน 100 % จากมูลหนี้รวมตามคำพิพากษาของศาล จำนวน 518,514 บาท และได้รับมอบโฉนดที่ดินซึ่งเกษตรกรได้นำไปเป็นหลักค้ำประกันการกู้เงินกับสหกรณ์ฯ จำนวน 3 แปลง เนื้อที่รวม 12 ไร่ 2 งาน 94 ตารางวา โดยมีนายวิชัย เขื่อนเชียงสา ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรเมืองเทิง จำกัด เป็นผู้รับเงินและได้มอบโฉนดที่ดินให้กับ หน.สนง. กฟก.จังหวัดเชียงราย

โดยนายนิยม เปิดเผยว่า กฟก. ได้ดำเนินการชำระหนี้แทนเกษตรกร กับสหกรณ์ฯ ในวันนี้ ถือเป็นวาระเร่งด่วนตามนโยบายของรัฐบาล ในการแก้ไขปัญหาหนี้สินในระบบของเกษตรกร เนื่องจากเกษตรกรรายดังกล่าว ได้ถูกเจ้าหนี้ฟ้องร้องดำเนินคดี และยึดที่ดินทั้ง 3 แปลง ไปขายทอดตลาด ซึ่งสำนักงานบังคับคดีจังหวัดเชียงราย สาขาเทิง ได้กำหนดวันเวลาขายทอดตลาดเรียบร้อยแล้ว และสำนักงาน กฟก.จังหวัดเชียงราย จึงได้ประสานให้มีการจัดประชุมเจรจาไกล่เกลี่ย โดยมี สำนักงานบังคับคดีจังหวัด สำนักงาน กฟก.จังหวัด อัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี ยุติธรรมจังหวัด สหกรณ์จังหวัด ผู้แทนฝ่ายทหาร ผู้แทนฝ่ายเจ้าหนี้ และเกษตรกรลูกหนี้ เข้าร่วมประชุมเจรจาไกล่เกลี่ย ซึ่งผลการประชุมทางสหกรณ์ฯเจ้าหนี้ ยินยอมงดการขายทอดตลาดออกไปก่อน ในช่วงระหว่างที่สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) สาขาจังหวัดเชียงราย ดำเนินการขออนุมัติชำระหนี้แทนเกษตรกร จากส่วนกลาง และได้รับการอนุมัติเรียบร้อยแล้วในวันนี้ โดยที่ดินทั้ง 3 แปลง จะถูกโอนตามกฎหมายเป็นของ กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร และเกษตรกรต้องทำสัญญาเช่าซื้อที่ดินคืน จำนวนเงิน 400,000 บาท โดยมีค่าบริการร้อยละ 0.50 ต่อปี ระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุด 20 ปี และเกษตรกรต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพ ต่อไป

นายนิยม กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2561 คณะรัฐมนตรีได้มีมติรับทราบและเห็นชอบ โครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรอย่างยั่งยืน (ลูกหนี้ ธ.ก.ส.) ตามที่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอแนวทางปรับโครงสร้างหนี้ระหว่างเกษตรกรลูกหนี้กับธนาคาร ธ.ก.ส. โดย ธ.ก.ส. จะปรับโครงสร้างหนี้ให้กับเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) จำนวน 36,605 รายทั่วประเทศ ที่เป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 ด้วยการพักเงินต้นครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 50) และดอกเบี้ยทั้งหมดไว้ก่อน สำหรับเงินต้นอีกครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 50) ให้เกษตรกรทำสัญญาผ่อนชำระตามกรอบเวลาที่ตกลงกันแต่ไม่เกิน 15 ปี คิดอัตราดอกเบี้ย MRR-3 เมื่อเกษตรกรผ่อนชำระหนี้ตามสัญญาใหม่เรียบร้อยแล้ว ดอกเบี้ยที่พักไว้ ธ.ก.ส. จะพิจารณายกให้เกษตรกร ส่วนเงินต้นที่เหลืออีกร้อยละ 50 ให้นำมาปรับโครงสร้างใหม่ภายใต้ดุลพินิจของเจ้าหนี้ที่จะพิจารณาศักยภาพของลูกหนี้แต่ละราย โดยใช้หลักการที่เป็นธรรมและไม่มีผลกระทบต่อภาระของเกษตรกร ทั้งนี้ ให้ กฟก. ดำเนินการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรอย่างเข้มข้น เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ สามารถนำมาชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ได้ภายในกำหนดเวลาและมีรายได้ในการประกอบอาชีพอย่างยั่งยืน ทั้งนี้เกษตรกร สามารถไปตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิได้ที่ ธนาคาร ธ.ก.ส.สาขาที่เกษตรกรเป็นลูกหนี้ทั่วประเทศ.