นรข.เชียงรายคุมเข้มลำน้ำโขง ลาดตะเวนตลอดแนวชายแดน
เมื่อวันที่ 2 ก.พ.2561 ที่ห้องประชุมหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย น.อ.วุฒิชัย ภู่เจริญยศ ผบ.หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย ได้จัดประชุมและบรรยายให้กับหน่วยงานด้านความมั่นคงที่ทำงานด้านแม่น้ำโขง
โดยเฉพาะด้านปัญหายาเสพติด โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมครบครัน เช่น ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปส.) ตำรวจน้ำ ตำรวจภูธร ศุลกากร ฯลฯ ซึ่งหลังการบรรยายมีการจัดเรือออกศึกษาพื้นที่ตั้งแต่หน้าที่ว่าการ อ.เชียงแสน จนถึงบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ ติดกับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ่อนคาสิโนและโครงการต่างๆ มากมายพื้นที่กว่า 10,000 เฮกตาร์ ซึ่งกลุ่มคิงส์ โรมันส์ เป็นเอกชนหลักในการดำเนินการได้สัมปทานจากรัฐบาล สปป.ลาว ให้พัฒนาเป็นเวลา 99 ปี และกำลังถูกทางการประเทศสหรัฐอเมริกาขึ้นบัญชีดำว่าเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติและการฟอกเงิน
โดยในครั้งนี้มีการบรรยายเกี่ยวกับการร่วมบูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ ในการออกลาดตระเวนรักษาความสงบเรียบร้อยและป้องกันปราบปรามอาชญากรรมโดยเฉพาะการลักลอบขนยาเสพติดเข้าสู่ประเทศไทยผ่านช่องทางทางแม่น้ำโขง ตั้งแต่สามเหลี่ยมทองคำ บ้านสบรวก หมู่ 1 ต.เวียง อ.เชียงแสน อ.เชียงของ และไปสิ้นสุดเขตแดนไทยที่บ้านห้วยลึก หมู่ 4 ต.ม่วงยาย อ.เวียงแก่น ระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร การมีองค์กรคือศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดในแม่น้ำโขง (ศปปข.) ที่ร่วมกันลาดตระเวนในแม่น้ำโขงร่วมกันทั้ง 4 ชาติ คือ ไทย จีน สปป.ลาว และเมียนมา
ทั้งนี้มีรายงานว่าในปัจจุบันเจ้าหน้าที่ยังคงใช้การข่าวในการตรวจสอบการขนและลักลอบขนยาเสพติดของขบวนการค้ายาเสพติดเป็นหลัก เนื่องจากแม่น้ำโขงมีระยะทางไกลและอาจจะลักลอบนำยาเสพติดขึ้นฝั่งจุดใดจุดหนึ่งก็ได้ ซึ่งล่าสุดมีรายงานว่าเส้นทางที่ใช้ขนยาเสพติดยังคงมาจากฝั่งประเทศเมียนมาโดยนำข้ามแม่น้ำโขงไปยัง สปป.ลาว ผ่านทางช่องทางเมืองพง (เมียนมา)-เมืองมอม (สปป.ลาว) และต่อไปยังบ้านม่วงคำ-บ้านศรีบุญเรือง ตรงกันข้าม อ.เชียงแสน ก่อนจะลักลอบนำเข้าสู่ตลาดใหญ่คือประเทศไทยเป็นหลัก ทั้งนี้กลุ่มผู้ลักลอบก็มีวิธีการต่างๆ ทั้งการมีเรือนำ การใช้เรือหลายลำ การพยายามเปลี่ยนจุดขึ้นฝั่งไทยไปมาทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้ทั้งการข่าว การตั้งด่านตรวจ การดักซุ่ม การลาดตระเวน ฯลฯ เพื่อสกัดกั้น
โดย น.อ.วุฒิชัย กล่าวว่า ตามปกติเจ้าหน้าที่ นรข.จะปฏิบัติงานในแม่น้ำโขงและริมฝั่งเป็นปกติอยู่แล้ว ดังนั้นกรณีที่มีการขึ้นบัญชีดำต่อกลุ่มคิงส์ โรมันส์ ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านนั้นจึงไม่มีผลใดๆ โดยเจ้าหน้าที่ยังคงลาดตระเวนตามลำแม่น้ำโขงภายใต้มาตรการที่ค่อนข้างเข้มงวด ซึ่งจากผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมาก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่พบว่ามีสิ่งผิดปกติตามแนวชายแดนด้านนี้ ดังนั้นการที่ประเทศสหรัฐอเมริกามีการดำเนินการดังกล่าวจึงไม่มีผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ไทยแต่อย่างใด
ทางด้าน พ.ต.อ.ณัชธฤต ปิ่นปัก ผกก.ตม.เชียงแสน กล่าวว่า ในปัจจุบันการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ที่ด่านพรมแดนสามารถตรวจสอบบุคคลที่มีบัญชีดำ ทำให้สามารถคัดกรองผู้ที่ข้ามแดนไปมาได้อย่างละเอียด ซึ่งหากเป็นคนที่กระทำผิดกฎหมายหรือบัญชีดำดังกล่าวสามารถจับกุมได้ ทั้งนี้ยืนยันว่าระบบยังคงถูกใช้ตรวจสอบอย่างเข้มข้นมาโดยตลอด ประกอบกับการบูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องตามช่องทางอนุญาตที่มีนักทองเที่ยวเข้าและออก ยังมีการเอ๊กซเรย์ผู้สัญจรทุกรายได้อีกด้วย
พ.ต.อ.ณัชธกฤต กล่าวอีกว่า ด้วยความสำคัญในแง่ของการป้องกันการกระทำผิดโดยเฉพาะอาชญากรรมข้ามชาติ ค้ามนุษย์ ยาเสพติดของชายแดนด้านนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ยังได้สนับสนุนเรือยนต์ให้กับ ตม.เพื่อนำมาใช้สนับสนุนปฏิบัติการสนับสนุนภารกิจป้องกันกระทำความผิดในแม่น้ำโขงด้าน จ.เชียงราย เพิ่มเติม โดยจะได้รับในช่วงเดือน เม.ย.นี้ต่อไป
“จนถึงปัจจุบันในแต่ละวันจะมีคนข้ามฝั่งไปมาโดยมีทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทย คนไทยจะใช้บัตรแผ่นแดนและชาวต่างชาติจะใช้วีซ่า โดยคนต่างชาติส่วนใหญ่จะเป็นคนจีน ซึ่งหลังมีข่าวการขึ้นบัญชีดำการประสานงานกับฝั่งประเทศเพื่อนบ้านก็ยังคงเป็นปกติ ทำให้เจ้าหน้าที่ก็ปฏิบัติงานกันตามปกติโดยไม่มีผลกระทบในแง่ของการปฏิบัติเพราะก็เข้มงวดเรื่องเหล่านี้กันอยู่แล้ว” พ.ต.อ.ณัชธกฤต กล่าว.
