สื่อด้วยภาพ ปกป้องแม่น้ำกก-อิง-โขง
เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคืนที่ผ่านมา สภาประชาชนลุ่มน้ำอิงและเครือข่ายชุมชนลุ่มน้ำอิง ร่วมกับขัวศิลปะ เชียงราย และองค์กรเครือข่ายรวมกันจำนวน 14 องค์กร ได้ร่วมกันจัดนิทรรศการศิลปะ “ภูมิทัศน์ที่มีชีวิต อิง กก โขง” ณ ขัวศิลปะ เชียงราย ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย โดยมีการจัดแสดงภาพจิตรกรรมที่บ่งบอกถึงวิถีชีวิต นิเวศวัฒนธรรมและเรื่องราวความสัมพัธ์ของผู้คนที่หลากหลายที่อยู่ลุ่มแม่น้ำเดียวกันดังกล่าว
โดยใช้ศิลปะเป็นสื่อ ซึ่งการจัดงานมีตัวแทนจากสหภาพยุโรปที่ทำงานด้านสิ่งแวดล้อมเข้าร่วม และมีการจัดเสวนาโดยมีบุคคลหลากหลายร่วมแสดงทัศนะ เช่น นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา ผู้ประสานงานเครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรมลุ่มน้ำโขง-ล้านนา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เครือข่ายภาคประชาชนด้านสิ่งแวดล้อม อาจารย์สุวิทย์ ใจป้อม นายกสมาคมขัวศิลปะ เชียงราย ฯลฯ
ซึ่งตัวแทนจากสหภาพยุโรป แจ้งว่า ในปัจจุบันประเทศต่างๆ ในทวีปยุโรปจำนวน 28 ประเทศ มีการออกกฎหมายเพื่อลดปริมาณการใช้พลาสติกที่เป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมลง โดยมีการห้ามนำพลาสติกมาใช้เป็นครั้งที่ 2 และในอีก 8 ปีนี้ก็จะมีการนำพลาสติกกลับมาคัดแยกใช้หรือรีไซเคิลให้ได้ประมาณ 90% รวมทั้งมีรายละเอียดข้อปฏิบัติอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการที่ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง แม่น้ำกกและแม่น้ำอิงมีกิจกรรมรณรงค์โดยใช้ศิลปะเป็นสื่อจึงเป็นเรื่องที่ดีอย่างมาก เพราะเป็นการปูพื้นฐานไปสู่การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมต่อไป
นายสมเกียรติ กล่าวว่า เมื่อมองตามมุมมองของคนในท้องถิ่นจะเห็นได้อย่างชัดเจนเมื่อย้อนเวลากลับไปประมาณ 20-30 ปีว่าในอดีตสภาพแม่น้ำสายต่างๆ โดยเฉพาะแม่น้ำกกและแม่น้ำอิงที่ไหลผ่าน จ.เชียงราย มีความอุดสมบูรณ์ โดยมีการศึกษาว่าเฉพาะแม่น้ำกกมีพันธุ์ปลาหลากหลายอยู่กว่า 200 ชนิด แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปจนถึงปัจจุบันพบว่ามีการพัฒนาด้านต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อแม่น้ำทำให้ในคาดว่ามีพันธุ์สัตว์น้ำอยู่ไม่ถึง 100 ชนิดแล้ว ส่วนสภาพป่าต้นน้ำก็เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะมีการปลูกพืชเศรษฐกิจ 2-3 ชนิดเข้าไปยังบริเวณดังกล่าวมากขึ้น
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า การพัฒนาที่ผ่านมามักมองเรื่องเศรษฐกิจซึ่งก็ทำให้เกิดคำถามว่าเศรษฐกิจนั้นเพื่อคนกลุ่มใด หากเพื่อผลิตภัณฑ์มวลชนรวมในประเทศหรือจีดีพีหรือกลุ่มทุนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่หากต้องการทำให้เศรษฐกิจภาคประชาชนดีขึ้นการมีแม่น้ำที่อุดมสมบูรณ์คือคำตอบ เพราะการที่ประชาชนสามารถใช้ความอุดมสมบูรณ์จากแม่น้ำสายสำคัญๆ ได้จะทำให้เกิดการพัฒนาได้อย่างยั่งยืนมากกว่า
รายงานข่าวแจ้งว่า ในเวทีดังกล่าวมีการให้ข้อมูลว่า ในปัจจุบันแม่น้ำอิงมีความยาวประมาณ 250 กิโลเมตร ไหลจาก จ.พะเยา สู่ จ.เชียงราย และแม่น้ำกก ไหลมาจากประเทศเมียนมา เข้าสู่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ก่อนไหลผ่าน จ.เชียงราย ระยะทางประมาณ 285 กิโลเมตร ทั้ง 2 สายน้ำไหลลงสู่แม่น้ำโขงในพื้นที่ จ.เชียงราย เหมือนกัน ขณะที่แม่น้ำโขงนั้นไหลผ่านประเทศจีน เมียนมา สปป.ลาว ไทย กัมพูชา และเวียดนาม มีประชากรริมฝั่งกว่า 60 ล้านคนใช้ประโยชน์ร่วมกัน มีพันธุ์ปลากว่า 1,245 ชนิด มีพื้นที่ชุ่มน้ำ 795,000 ตารางกิโลเมตร.