ข่าวเด่น

ยึดยาไอซ์ 860 กิโลฯ มากที่สุดในรอบปี

ยึดยาไอซ์ 860 กิโลฯ มากที่สุดในรอบปี ยาบ้า 4 แสนเม็ด

เมื่อวันที่ 29 พ.ค.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ลานฝึกภักดีภูมิ ภ.จว.เชียงราย พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบช.ภ.5 พ.ต.อ.วิรัช สุมนาพันธ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย หน่วยงานทหารทั้งมณฑลทหารบกที่ 37 และ ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ร่วมกันแถลงข่าว การจับกุมคดียาเสพติดประเภทยาไอซ์ และยาบ้าจำนวน 4 แสนเม็ด

สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ บก.สส.ภ.5 และ กก.สส.ภ.จว.เชียงราย และหน่วยงานต่างๆ สืบทราบจะมีการลักลอบขนยาเสพติดผ่านมาตามถนนสายเทิง-เชียงราย จึงได้ออกติดตามหาข่าวกระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน ขับมุ่งหน้าจะไปทาง อ.เมืองเชียงราย ตรงเชิงสะพานข้ามแม่น้ำลาว หน้าตลาดท่าสาย ต.ท่าสาย อ.เมืองเชียงราย จึงเข้าสกัดเอาไว้พบภายในรถมีคนขับเป็นหญิงชื่อว่า น.ส.ชญาดา ชัยแว่นแคว้น อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 101/1 หมู่ 11 ต.ป่าแป๋ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ โดยอยู่ในรถตามลำพัง เมื่อตรวจสอบที่หลังรถพบออกแบบเป็นห้องเย็นบรรทุกสินค้าแต่เมื่อเปิดดูพบกระเป๋าเป้สีเขียวจำนวน 32 ใบ วางอยู่ภายในรถ ภายในกระเป๋า มียาเสพติดประเภทยาไอซ์ชนิดเกล็ดสีขาว บรรจุในถุงพลาสติกน้ำหนักรวมกันทั้งหมดประมาณ 860 กิโลกรัม จึงจับกุมตัว น.ส.ชญาดา เอาไว้

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ ติดหมายเลขทะเบียน 5 กข 1759 กรุงเทพฯ ขับนำหน้าไป เจ้าหน้าที่จึงออกไล่ติดตามไปจนถึงบริเวณป่าช้าบ้านสองแคว ต.ธารทอง อ.พาน จ.เชียงราย แต่คนขับออกจากรถหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่จึงสอบถาม น.ส.ชญาดา หาคนขับรถ เจ้าหน้าที่ก็ทราบชื่อและที่อยู่แล้วว่าเป็นชาว ต.แม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ จึงอยู่ระหว่างติดตามจับกุม เบื้องต้น น.ส.ชญาดา รับสารภาพว่าได้ร่วมกับพวกที่หลบหนีลำเลียงยาเสพติดมาจากทาง อ.เทิง เพื่อมุ่งหน้าจะไป จ.เชียงใหม่

โดยพล.ต.ท.พูลทรัพย์ กล่าวว่า คดีนี้พบว่าฝ่ายหญิงซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์เป็นคนขับรถยนต์กระบะที่ขนของกลางมาเพียงลำพังคนเดียวส่วนผู้ชายเป็นคนขับรถนำ โดยเจ้าหน้าที่ทราบข้อมูลหมดแล้วจึงอยู่ระหว่างขออนุมัติหมายจับเพื่อติดตามจับกุมต่อไป

ทางด้าน พล.ต.ต.ภาณุเดช กล่าวว่า ยาเสพติดชุดนี้ยังคงเลี่ยงถนนสายหลักและพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศเมียนมา แต่อ้อมข้ามไปประเทศเพื่อนบ้านฝั่งทิศตะวันออกจากนั้นนำข้ามแม่น้ำโขงเข้ามาทาง อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย และลักลอบขนมาตามถนนสายรองเพื่อจะนำไปส่งที่ จ.เชียงใหม่ แต่ปลายทางที่แท้จริงนั้นคาดว่าจะเป็นตลาดต่างประเทศเพราะเป็นการบรรจุในถุงพลาสติกใสและบรรจุในกระเป๋าเป้อย่างดีไม่เหมือนที่ผ่านๆ มาซึ่งมักจะนำใส่ถุงใบชาสูญญากาศที่อยู่ในกระสอบฟาง ส่วนกลุ่มที่ผลิตนั้นจะได้ให้ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้ช่วยไปตรวจสอบจากพัสดุภัณฑ์และตัวยาเสพติดต่อไป.