สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ พระราชทานปริญญาบัตร มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง รุ่นที่ 22
เมื่อวันอังคารที่ 18 มีนาคม 2568 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2566 มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มัชฌิมา นราดิศร อธิการบดี ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตร และศาสตราจารย์พิเศษ ดร.วันชัย ศิริชนะ นายกสภามหาวิทยาลัย (อธิการบดีผู้ก่อตั้ง) กราบบังคมทูลสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ในปีนี้มีผู้ได้รับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ 3 ท่าน ได้แก่ นายบัณฑูร ล่ำซำ ได้รับปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาสังคมศาสตร์ ด้วยผลงานอันโดดเด่นในฐานะผู้นำภาคธุรกิจการเงินที่วางรากฐานการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะโครงการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำน่าน การส่งเสริมการศึกษา และการพัฒนาระบบสาธารณสุข, รองศาสตราจารย์ภิญโญ สุวรรณคีรี ได้รับปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาสังคมศาสตร์ ในฐานะผู้มีคุณูปการต่อการอนุรักษ์และพัฒนาสถาปัตยกรรมไทย และรองศาสตราจารย์ยืน ภู่วรวรรณ ได้รับปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาเทคโนโลยีการแปลงเป็นดิจิทัล ด้วยผลงานบุกเบิกด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศไทย
นอกจากนี้ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.สมจิต หนุเจริญกุล ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติ “ตุงทองคำ” ประจำปีพุทธศักราช 2567 ในฐานะครูพยาบาลคนแรกที่ได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์ในสาขาพยาบาลศาสตร์ของประเทศไทย
ในโอกาสนี้ มีผู้สำเร็จการศึกษาเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรกว่า 2,431 คน จาก 15 สำนักวิชา โดยมีบัณฑิตชาวต่างชาติเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจำนวน 73 คน จากผู้สำเร็จการศึกษาชาวต่างชาติทั้งหมด 116 คน จากหลายประเทศ เช่น จีน, เมียนมา, ศรีลังกา, ภูฏาน และอีกหลายประเทศทั่วโลก
พระราชทานพระราโชวาทความว่า “การที่จะดำเนินชีวิตและประกอบกิจการงาน ให้สำเร็จผลที่ดีที่เจริญได้นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยความคิดที่ดีที่ถูกต้องเป็นพื้นฐาน” และทรงอัญเชิญพระบรมราโชวาทในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ที่ว่า “ความคิดนั้นสำคัญมาก…ก่อนที่บุคคลจะพูดจะทำสิ่งใด จำเป็นต้องหยุดคิดเสียก่อนว่า กิจที่จะทำ คำที่จะพูดนั้นผิดหรือถูก เป็นคุณประโยชน์หรือเป็นโทษเสียหาย…” จึงขอให้บัณฑิตทุกคนน้อมนำพระบรมราโชวาทนี้ไปเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตและประกอบกิจการงานต่อไป
หลังจากนั้น สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ เสด็จไปทรงประกอบพิธีเททองหล่อพระรูปสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ประทับคู่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ณ มณฑลพิธีลานพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี การจัดสร้างพระรูปนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเทิดพระเกียรติ และเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของบุคลากรทางการแพทย์และผู้มารับบริการที่ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
ในโอกาสเดียวกัน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ ยังเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรนิทรรศการดิจิทัล “รวมศาสตร์ศิลป์ รับมือภัยพิบัติ สู่ชุมชนยั่งยืน” ซึ่งนำเสนอแนวทางการจัดการภัยพิบัติจากมหาอุทกภัยปี 2567 ในจังหวัดเชียงราย ผ่านเทคโนโลยีทันสมัยทั้งโมชั่นกราฟิก เว็บแอปพลิเคชัน และเทคโนโลยีเสมือนจริง (VR) โดยภายในนิทรรศการประกอบด้วยส่วนสำคัญ ดังนี้ การนำเสนอโมชั่นกราฟิก “สถานการณ์อุทกภัยและการบรรเทาฟื้นฟูจังหวัดเชียงราย”, การสาธิตเว็บแอปพลิเคชัน disaster.mfu.ac.th, การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการจัดเก็บข้อมูลโบราณสถานด้วย VR Chiang Saen
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงได้จัดทำแนวทางการบริหารจัดการเพื่อรับมือภัยพิบัติโดยแบ่งเป็น 3 ด้านหลัก ได้แก่ ด้านป้องกันภัยพิบัติที่มุ่งเน้นการพัฒนาระบบสารสนเทศ การจัดทำคู่มือ การเตรียมความพร้อม การบริหารจัดการความเสี่ยง และการพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉิน ด้านบรรเทาภัยพิบัติที่ให้ความสำคัญกับการจัดตั้งศูนย์อำนวยการ การประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารในภาวะฉุกเฉิน การดูแลด้านสุขภาพ การเปิดศูนย์พักพิง และการบูรณาการความช่วยเหลือ และด้านฟื้นฟูหลังภัยพิบัติที่ครอบคลุมการฟื้นฟูทั้งในมิติสุขภาวะ สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อให้การดำเนินการประสบความสำเร็จ โดยมหาวิทยาลัยพร้อมเป็นหน่วยงานขับเคลื่อนความร่วมมือนี้ภายใต้ปรัชญา “ปลูกป่า สร้างคน” เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนอย่างยั่งยืน
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงได้ทูลเกล้าฯ ถวายของที่ระลึกแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ ประกอบด้วย “พานปั้นดินเผา” ซึ่งเกิดจากดินในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากมหาอุทกภัยปี 2567, ชุดหนังสือการเรียนรู้เวียงหนองหล่ม และโมเดลจาก VR เชียงแสน
ในโอกาสนี้นักศึกษาจากวงดนตรีประจำมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง หรือ MFU BAND ได้ร่วมเฝ้ารับเสด็จฯ และร่วมกันขับร้องเพลง ‘นารีรัตนา’ ก่อนนายกสภามหาวิทยาลัย คณะผู้บริหาร คณาจารย์ ได้ร่วมกันส่งเสด็จฯ กลับ .








