ข่าวเด่น

ฝังแล้วเมียกำนันม้ง ไร้เงากำนันร่วมพิธี -อำเภอเข้มติดกล้องทั่วดอย 150 จุด

เมื่อวันที่ 4 พ.ค.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้ากรณีคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มนายทวีศักดิ์ ยอดมณีบรรพต อายุ 54 ปี กำนัน ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ประธานชมรมม้งแห่งประเทศไทย ขณะพาครอบครัวเดินทางจะกลับบ้านห้วยหาน หมู่ 9 ต.ปอ เมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา บนถนนผาตั้ง-ร่มฟ้าทอง ก่อนถึงจนทำให้ภรรยาและลูกสาววัย 5 ขวบเสียชีวิตคาที่ส่วนเจ้าตัวและลูกชายวัย 3 ขวบบาดเจ็บสาหัสว่า ในวันนี้นายคำรณ ศรีโพธิ์ นายอำเภอเวียงแก่น พร้อมกลุ่มผู้นำชุมชนและชาวบ้านบ้านห้วยหาน ตำบลปอ กว่า 300 คน ได้ร่วมกันนำร่างไร้วิญญาณของนางไหมเยีย วงค์นภาไพศาล ภรรยาของนายทวีศักดิ์ ไปประกอบพิธีการฝังตามประเพณีของชาวม้ง บริเวณพื้นที่สวนยางพาราส่วนตัวของครอบครัว บ้านรักแผ่นดิน ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเกิดประมาณ 15 กิโลเมตร และเป็นจุดเดียวกับที่ได้ฝังร่างของด.ญ.ธัญญาพร ยอดมณีบรรพต บุตรสาวอายุ 5 ปี ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์เดียวกัน ซึ่งได้ประกอบพิธีฝังศพไปแล้วก่อนหน้านี้

โดยนายคำรณ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ยิงถล่มนายทวีศักดิ์ และครอบครัว จึงได้มีคำสั่งให้ทางผู้ใหญ่บ้านปางปอ รักษการกำนันตำบลปอ และให้ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ทำหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านเป็นการชั่วคราวเพื่อดูแลลูกบ้านเป็นการชั่วคราว อย่างไรก็ตามจากการติดตามอาการของทางกำนันทวีศักดิ์ ก็พบว่ามีอาการที่ดีขึ้นมาก เหลือเพียงรักษาดวงตาที่ถูกสะเก็ดจากการถูกยิงกระเด็นใส่ ซึ่งแพทย์ทำการผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้รอการฟักพื้นให้อาการหายดี คาดว่าจะสามารถกลับมาปฎิบัติหน้าที่ก่อน 30 วันตามระยะที่มีสิทธิลาราชการ ซึ่งทางกำนันเองก็พร้อมมาทำงานต่อเพราะทุกคนเอากำลังช่วยอยู่

นายคำรณ กล่าวด้วยว่า สำหรับด้านการดูแลความปลอดภัยในขณะนี้นั้น ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่อส.หมุนเวียนกันวันละ 4 นาย เข้าไปดูแลทั้งนายทวีศักดิ์ที่โรงพยาบาลในจังหวัดเชียงใหม่ และทางบุตรชายคนเล็กอายุ 3 ขวบ ที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ซึ่งพบว่าอาการปลอดภัยดีแล้วเช่นกัน ส่วนอาวุธปืนที่ทางชุดคลี่คลายคดีได้ขอความร่วมมือให้ทางผู้ครอบครองอาวุธปืนราชการโดยเฉพาะอาวุธปืนลูกซอง ไปตรวจสอบปลอกกระสุนนั้น ขณะนี้ได้ส่งมอบไปหมดและทำการยิงทดสอบปลอกกระสุนแล้ว คาดว่าจะได้ทราบผลในเร็วๆ นี้ ซึ่งผู้ครอบครองก็ให้ความร่วมมือในการนำปืนมาส่งมอบ

“ก่อนเกิดเหตุนายทวีศักดิ์ ก็เคยแจ้งกับทางอำเภอว่ามีปัญหาในเรื่องของการเข้มงวดกวดขัน เนื่องจากบ้านห้วยหานเป็นโรงเรียนสีขาวปลอดยาเสพติด แต่ปัญหาอื่นยังไม่ได้ยินพูดถึงเนื่องจาก นายทวีศักดิ์ เป็นนักสู้และเป็นคนเอาจริงเอาจังในหน้าที่การงาน โดยตนทำงานร่วมกันมาก็เห็นมาตลอด อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุดังกล่าว ก็ได้สั่งการให้รักษาความปลอดภัยในพื้นที่มากขึ้น โดยให้เพิ่มเวรยามเจ้าหน้าที่ และทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มอีก 150 ตัว จัดชุด ชรบ.เข้าเวรยามทุกหมู่บ้าน และมีหน่วยลาดตระเวณเคลื่อนที่ไว้ตรวจตรา เพื่อสร้างขวัญและกำลังให้เข้มแข็งขึ้น ซึ่งยอมรับว่าอำเภอเวียงแก่นเป็นพื้นที่เปราะบาง เป็นพื้นที่ภูเขา ระยะแนวชายแดนยาวไกลประชาชน สามารถข้ามไปมาได้โดยง่าย มีพื้นที่บางส่วนติดแม่น้ำโขงสามารถใช้เรือยาวแล่นไปมาได้โดยใช้เวลาเพียงนิดเดียว ทำให้เป็นจุดล่อแหลมที่ทำให้มีการค้าของขบวนการค้าเสพติดได้ง่าย ทำให้เพิ่มกำลังเข้าไปสกัดกั้น” นายคำรณ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า อย่างไรก็ตามพบว่าไม่มีนายทวีศักดิ์เดินทางมาร่วมในพิธีฝั่งศพนางไหมเยีย แต่อย่างใด

สำหรับด้านคดี ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงสืบสวนเพื่อแกะรอยติดตามหาตัวคนร้ายและผู้เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องโดยทางชุดคลี่คลายคดีจาก ภ.5 ได้นำปืนชุดแรกที่เรียกจากผู้มีไว้ครอบครองในเขต ต.ปอ จำนวน 99 กระบอก ไปทดสอบยิงที่สนามยิงปืน ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย แต่ปรากฎว่าปืนเสียจำนวน 3 กระบอกจึงเหลือเพียงจำนวน 96 กระบอก ซึ่งการยิงจะตรวจสอบทั้งวิถี ปลอกกระสุนและอื่นๆ โดยร่วมกับศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 5 ลำปาง ขณะที่มีปืนที่เรียกมาตรวจสอบจาก 4 ตำบลใน อ.เวียงแก่น คือ ต.ปอ ต.ม่วงยาย ต.ท่าข้าม และ ต.หล่ายงาว รวมทั้งจำนวน 315 กระบอกคาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์.