เทศบาลครเชียงราย มอบเกียรติบัตร 88 “หญิงเก่ง” วันสตรีสากล
นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย นางรัตนา จงสุทธานามณี นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงราย ในฐานะที่ปรึกษา นายกเทศมนตรีนครเชียงราย พร้อมด้วย คณะผู้บริหารเทศบาลนครเชียราย เปิดงานวันสตรีสากล ภายในใต้กิจกรรม”โครงการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพสตรี ในเขตเทศบาลนครเชียงราย ประจำปี 2566” โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก ที่อาคารห้องประชุม โรงเรียนเชียงรายวิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย รวมทั้ง “ผู้หญิงเก่ง” ที่ได้มีการคัดเลือกจาก 65 ชุมชน และองค์กรต่าง ๆ ที่เป็นภาคีเครือข่ายในการช่วยเหลือสังคมของเทศบาลครเชียงราย จำนวน 88 คน
นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย กล่าวว่า ตามที่องค์การสหประชาชาติได้รับรองให้วันที่ 8 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันสตรีสากล ทางเทศบาลนครเชียงราย ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ที่ได้จัดกิจกรรมดี และมอบเกียรติบัตรให้กับผู้หญิงเก่ง ซึ่งจุดนี้จะเป็นความภาคภูมิใจของผู้ที่ได้รับอย่างมาก ซึ่งบุคคลนั้น อาจจะเก่งในหลายเรื่อง ทั้งเรื่องครอบครัว การทำงาน และเป็นแบบอย่างที่ดีต่อสังคม โดยแบบอย่างที่ดีเหล่านี้ ก็จะเป็นตัวอย่างให้ทุกคนได้ทำตามต่อไป และเชื่อว่าผู้หญิงทุกคน เป็นหญิงเก่งได้เช่นกัน
ทั้งนี้ การจัดงานสตรีสากลเป็นประจำทุกปีของทางเทศบาลนครเชียงราย เริ่มต้นจากการเดินรณรงค์ให้ทราบถึงวันสตรีสากล ไปโดยรอบเขตเทศบาลฯ เพื่อกระตุ้นให้สังคมไทยตระหนักถึงศักยภาพและสิทธิมนุษยชน และกระตุ้นให้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนงานสถานภาพสตรีอย่างเป็นรูปธรรมให้มากขึ้น
จากนั้น นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ได้มอบเกียรติบัตร ให้กับผู้หญิงเก่งจำนวน 88 คน พร้อมร่วมแสดงความยินดีกับการผู้ที่ถูกคัดเลือกให้เป็นหญิงเก่ง เนื่องใน วันสตรีสากล
ขณะที่ นางรัตนา จงสุทธานามณี นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงราย ได้ร่วมบรรยาย วันสตรีสากล หัวข้อ“การพัฒนาศักยภาพภาวะผู้นำสตรี” และสร้างพลังให้กับผู้หญิง ว่า ปกติที่ผ่านมาในสังคม จะยกย่องผู้ชายให้เป็นผู้นำมาโดยตลอด แต่มาถึงปัจจุบันกาลเวลาเปลี่ยน ผู้หญิงสามารถทำได้ทุกเรื่อง แสดงบทบาทของผู้หญิงทัดเทียมกับผู้ชาย ผู้หญิงมีความพากเพียร และมีความอดทน ทำงานที่ละเอียดอ่อน
“จึงทำให้ผู้หญิงเก่งมากขึ้น ดังนั้น การพัฒนาศักยภาพภาวะผู้นำสตรี ต้องมีความพร้อมทั้งภายนอกและภายใน มีจิตใจสาธารณะ จิตสำนึกที่ดี ความคิดที่ดี ความประพฤติที่ดี การที่เรามีสำนึกรับผิดชอบ การทำงานเพื่อส่วนรวมมีความเสียสละและซื่อตรง โปร่งใส ถึงจะดูแลผู้อื่นได้ดี นอกจากนี้ต้องมีความคิดเชิงบวก ความคิดสร้างสรรค์ สำคัญเรื่องของการบริหารเวลา การอยู่ร่วมกันรักสามัคคีและการตรงต่อเวลา เพื่อบรรลุเป้าหมาย และมีความสามรถในการสื่อสารและประสานที่ดี”นางรัตนา กล่าว.