Local Travelข่าวเทศบาลนครเชียงราย

“วัดฝั่งหมิ่น” แลนด์มาร์คใหม่เชียงรายศูนย์รวมศิลปะ-วัฒนธรรม

“วัดฝั่งหมิ่น” ตั้งอยู่เลขที่ 30 หมู่ 6 ต.ริมกก อ.เมือง จ.ชียงราย ซึ่งเป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงประจำ จ.เชียงราย ได้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์อุโบสถและมีการพัฒนาพื้นที่โดยรอบ รวมทั้งมีการก่อสร้างกำแพงและก่อสร้างซุ้มประตูทางเข้าทั้ง 4 ทิศ จนทำให้ปัจจุบันได้กลายเป็นวัดที่มีความสวยสดงดงาม และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของ จ.เชียงราย ซึ่งแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวพากันไปเที่ยวชมความสวยงามของวัดและไปร่วมทำบุญกันเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นส่งเสริมสถานที่ท่องเที่ยว ทางจังหวัดเชียงราย โดย นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจัหวัดเชียงราย และ คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ได้ดำเนินการให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ปลอดภัย

โดยพระครูขันติพลาธร เจ้าอาวาสวัดฝั่งหมิ่น และเป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงราย กล่าวว่า วัดฝั่งหมิ่นเป็นพื้นที่วัดเก่าแก่กว่า 200 ปี แต่ไม่ปรากฎชัดว่าใครสร้าง จากการสอบถามผู้เฒ่าผู้แก่ว่าอดีตเคยมีพระสงฆ์อาศัยอยู่ ต่อมาแม่น้ำกกเปลี่ยนทิศทำให้วัดถูกน้ำกัดเซาะมาถึงวัดจึงถูกเรียกว่าวัด “ฝั่งหมิ่น” ภายหลังพบว่ากระแสน้ำไม่ได้พัดเอาเศษอิฐและวัสดุภายในวัดไหลไปตามน้ำ พระภิกษุและชาวบ้านจึงได้ร่วมกันสร้างถาวรวัตถุเพื่อสืบต่อพระพุทธศาสนา ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2512

พระครูขันติพลาธร กล่าวว่า เดิมทีบริเวณวัดฝั่งหมิ่นเหมือนพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ทำอะไรได้ยากลำบาก กระทั่งมีบวชสามเณรภาคฤดูร้อนก็มีวิญญาณเข้าสิงสอบถามทราบว่าเป็นทหารของพ่อขุนเม็งรายบ้าง และเจ้าเมืองสมัยก่อนบ้าง ทำให้จึงต้องมีการบวงสรวงและสร้างศาลให้ 2 ศาล ตั้งแต่นั้นมาทำอะไรก็มีความสำเร็จ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2557 ก็มีการสร้างวิหารแล้วเสร็จเมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา และมีการก่อสร้างกำแพงและประตูเทพนิมิตทั้ง 4 ด้าน ล้อมรอบพื้นที่วัดประมาณ 6 ไร่ 1 งาน

พระครูขันติพลาธร กล่าวอีกว่า ประตูใหญ่ทิศเหนือคือประตูอภัย ผู้ที่เข้ามาแล้วอธิษฐานจิตจะอยู่รอดปลอดภัย อยู่ดีมีสุข คิดหรือทำอะไรจะมีความสำเร็จ ปลอดภัยตลอด ประเทศทิศใต้เป็นประตูมังกรคาบสิงโต ใครที่อยากได้หน้าที่การงานตำแหน่งอำนาจบารมี ให้เข้าประตูนี้แล้วอธิษฐานจิต ทิศตะวันตกเป็นซุ้มประตูนกยูง ใครอยากมีโชคลาภ ค้าขายก็เข้าประตูนี้ ส่วนทางทิศตะวันออก เป็นประตูช้างคู่ ใครเข้าประตูนี้อธิษฐานจิตจะได้สมดั่งสิ่งที่คิดหวัง ร่ำรวยเงินทอง

“ปัจจุบันทางเทศบาลนครเชียงรายได้พัฒนาพื้นที่ลำน้ำกก เป็นถนนเพื่อปั่นจักรยานและถนนเลียบแม่น้ำกกเพื่อวิ่งออกกำลังกาย และมีการตัดถนนเส้นใหม่ประมาณ 2 กิโลเมตร เชื่อว่าจะทำให้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวชมวัดฝั่งหมิ่นมากขึ้น”

พระครูขันติพลาธร กล่าวด้วยว่า อาจมีการเปิดให้มีตลาดน้ำและการแข่งขันพายเรือ เนื่องจากวัดอยู่ติดกับริมแม่น้ำกกเพื่อให้มีกิจกรรมใหม่ของ จ.เชียงราย รวมไปถึงอาจมีการจัดกฐินและบิณฑบาตรทางน้ำอีกด้วย ซึ่งทางวัดได้หารือกับทางเทศบาลนครเชียงราย พร้อมที่จะให้การสนับสนุนเรือพายมาให้สำหรับให้ภิกษุและสามเณรฝึกพายเพื่อนำออกบิณฑบาตรทางน้ำ

ภายในวัดฝั่งหมิ่น ยังเป็นที่ตั้งของหอวัฒนธรรมนิทัศน์ เฉลิมพระเกียรติกาญจนาภิเษก จังหวัดเชียงราย มีจำนวน 3 ชั้น โดย ชั้นที่ 1 แสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เมืองเชียงราย รวบรวมบ้านเมือง พ.ศ 1804 ถึง 1839 ชั้นที่ 2 แสดงเกี่ยวกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่นำเสนอข้อมูลด้านบ้านพัก ที่อยู่อาศัยวัดในล้านนา สถาปัตยกรรมเชิงสัญลักษณ์ เจดีย์แบบล้านนา องค์ประกอบโครงสร้างสถาปัตยกรรม สถาปัตยกรรมร่วมสมัยในเชียงราย พุทธสถานสำคัญในเมืองเชียงราย เครื่องดนตรีและศิลปะการแสดงพื้นบ้านล้านนา ตลอดจนเอกสารโบราณ ได้แก่ ใบลาน ศิลาจารึก บันทึกเรื่องต่างๆ รวมทั้งนำเสนอข้อมูลงานหัตถกรรมและงานสล่า แขนงต่างๆ ส่วนชั้นที่้ 3 เป็นพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 สมเด็จพระราชินีและสมเด็จย่า

ขณะเดียวกันบริเวณลานอุทยานประวัติศาสตร์เมืองเชียงราย ซึ่งอยู่ด้านหน้าอาคารกลุ่มชุมนุมเก้าผญาเชียงราย ยังได้จัดให้การแสดงภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านแพทย์แผนไทยโบราณ อาทิ การนวดตอกเส้น ย่ำขาง การอบสมุนไพร และการแช่เท้าด้วยสมุนไพร เพื่อการบำบัดและผ่อนคลายให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนที่มาเยือน เรียกได้ว่าปัจจุบัน วัดฝั่งหมิ่นเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถสัมผัสทั้งด้านศาสนา ศิลปะ วัฒธนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นแบบครบวงจรกันเลยทีเดียว.