ข่าวเด่น

อบต.โป่งผา สั่งห้ามขึ้นแล้ว! ตูบไม้ไผ่ 5 ชั้น หวั่นอันตราย รอปรับแบบ

เมื่อวันที่ 11 กรกฏาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี นายขวัญณรงค์ ขวาเมืองพาน ชาวหมู่บ้านป่าแฝ หมู่ 3 ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้สร้างโครงการนางนอนเบสแคมป์ โดยสร้างด้วยไม้ไผ่ทั้งหมดคล้ายคอนโด มีความสูงประมาณ 15 เมตร เท่าตึก 4-5 ชั้น ทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส เรียกว่า “ตูบผะหญา” หรือเพิงปัญญา พร้อมทั้งเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมทุ่งนาและเทือกเขาดอยนางนอน โดยด้านล่างจำหน่ายกาแฟ ชา ข้าวซอย น้ำเงี้ยว ฯลฯ จนทำให้มีนักท่องเที่ยวสนใจต่างพากันไปเยือนจำนวนมาก

โดยล่าสุดพบว่า ทางองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โป่งผา ได้มีหนังสือแจ้งไปยังนายขวัญณรงค์ว่าอาคารดังกล่าวสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตและอาจผิดต่อระเบียบหลายข้อ ทำให้”ตูบผะหญา” หรือเพิงปัญญาคอนโดไม้ไผ่ดังกล่าวต้องปิดให้บริการ โดยทำให้นักท่องเที่ยวที่ไปเชิญในช่วงนี้ต่างผิดหวังไปตามๆ กัน และพากันไปดูแค่ตัวอาคารโดยไม่มีโอกาสได้ขึ้นไป

ทั้งนี้ หนังสือจาก อบต.โป่งผา ดังกล่าวระบุว่าเป็น “คำสั่งห้ามใช้อาคารหรือยินยอมให้บุคคลใดใช้อาคารที่อาจเป็นภยันตราย ตามมาตรา 40 วรรคหนึ่ง หรือมาตรา 41 วรรคหนึ่ง” (กรณีที่การก่อสร้าง ดัดแปลง เคลื่อนย้ายหรือรื้อถอนอาคารไม่ได้รับใบอนุญาต) เลขที่ ชร 78403/0734 โดยได้แจ้งถึงนายขวัญณรงค์เจ้าของอาคารดังกล่าวว่าตามที่ได้ก่อสร้างอาคารไม้ไผ่กว้าง 25 เมตร ยาว 20 เมตรจำนวน 1 หลังตั้งอยู่กลางทุ่งนาของหมู่บ้านป่าแฝนั้นพบว่ายังไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นและเนื่องจากอาคารอาจเป็นภยันตรายต่อสุขภาพ ชีวิต ร่างกายหรือทรัพย์สิน จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 40 วรรคหนึ่ง หรือมาตรา 41 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ห้ามไม่ให้ใช้หรือยินยอมให้บุคคลใดใช้อาคารนี้ทั้งหมดหรือบางส่วนด้วยโดยหนังสือลงชื่อ น.ส.สุดา ปฏิเสน รองปลัด อบต.โป่งผา รักษาราชการแทนปลัด อบต.โป่งผา และปฏิบัติหน้าที่นายก อบต.โป่งผา ซึ่งได้มอบหมายให้กองช่างไปยื่นหนังสือต่อเจ้าของคอนโดไม้ไผ่ดังกล่าว

นอกจากนี้ทาง อบต.โป่งผา ยังได้มีคำเตือนแจ้งในหนังสือมาด้วยอีกหลายข้อมีเนื้อหาว่าผู้ใดก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอนหรือเคลื่อนย้ายอาคารโดยเจ้าของอาคารไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และผู้ใดได้รับคำสั่งแล้วฝ่าฝืนนอกจากจะต้องระวางโทษดังกล่าวแล้วยังต้องระวางโทษปรับอีกวันละ 500 บาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน รวมทั้งถ้าเป็นการกระทำของผู้ดำเนินการต้องระวางโทษเป็นสองเท่าของโทษที่บัญญัติไว้สำหรับความผิดนั้นๆ นอกจากนี้ยังเตือนด้วยว่าถ้าเป็นการกระทำอันเกี่ยวกับอาคารเพื่อพาณิชยกรรม อุตสาหกรรม การศึกษาหรือการสาธารณสุขหรือเป็นกระกระทำในทางการค้าเพื่อให้เช่า ให้เช่าซื้อ ขาย หรือจำหน่ายโดยมีค่าตอบแทนซึ่งอาคารใด ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับเป็นสิบเท่าของโทษที่บัญญัติสำหรับความผิดนั้นๆ หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทางด้านนายขวัญณรงค์ กล่าวว่า ภายหลังจากที่ได้รับหนังสือจากทาง อบต.โป่งผา ก็ขอไม่ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปบนตูบผะหญา แต่ยังคงอยู่ด่านล่างและมีบริการเพิงพักที่เป็นเพิงไม้ไผ่ชั้นเดียวและด้านล่างของตูบผะหญ้าที่กว้างขวางรองรับเช่นเดิม โดยมีบริการกาแฟ น้ำเงี้ยว น้ำดื่ม ฯลฯ ต่างๆ ไว้รองรับเช่นเดิม ส่วน “ตูบผะหญา” อาคารไม้ไผ่ ก็ติดป้ายแจ้งห้ามขึ้นเอาไว้เรียบร้อย ส่วนสาเหตุที่มีการก่อสร้างต้องยอมรับว่าคนในระดับชาวบ้านเราไม่อาจจะเข้าไม่ถึงข้อกฎหมายต่างๆ อย่างละเอียดเพราะทางหน่วยงานราชการก็ไม่ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้รู้ทั่วถึง

“และในเบื้องต้นช่วงที่ก่อสร้างใหม่ๆ ตนก็ไม่ได้มุ่งจะให้ผู้คนเข้าไปชมกันมากในช่วงนี้ เพราะตั้งเป้าว่าจะทำให้เสร็จเรียบร้อยทั้งหมดเสียก่อนแล้วค่อยไปเปิดอย่างสมบูรณ์ในช่วงปลายปี 2562 แต่ปรากฎว่าผู้คนที่ทราบข่าวต่างเดินทางมาเที่ยวชมกันเป็นจำนวนมากจึงต้องให้บริการดังกล่าว รวมทั้งมุ่งให้อาคารไม้ไผ่สูงดังกล่าว เป็นอาคารไม้ไผ่สำหรับดูทิวทัศน์ที่งดงามโดยจำกัดคนที่จะเข้าไป จึงไม่ใช่คอนโดไม้ไผ่หรือที่พักที่ให้เช่านอนพักอย่างที่บางส่วนเข้าใจ แต่หลังจากได้รับเรื่องแล้วก็จะร่วมกับเจ้าหน้าที่ในการปรับแบบเพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย คาดว่าจะทันและสามารถเปิดให้ขึ้นชมได้ในช่วงปลายปีนี้ ส่วนช่วงนี้ก็ยังสามารถเดินทางไปชมและเที่ยวกันได้ตามปกติ” นายขวัญณรงค์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ทางด้าน พ.ต.ท.ฉันทฤทธิ์ เหล่าไพโรจน์จารี สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยว 2 กองกำกับการตำรวจท่องเที่ยว 4 (สว.ส.ทท.2 กก.4) กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว (บก.ทท.) ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมนักท่องเที่ยว ที่ยังเดินทางไปยัง “ตูบผะหญา” อาคารไม้ไผ่ ซึ่งพบว่ายังคงมีนักท่องเที่ยวไปเยือน เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวตั้งอยู่กลางทุ่งนาของหมู่บ้านในชนบทและไม่ไกล จากถนนพหลโยธิน รวมทั้งมีทิวทัศน์ของทุ่งนากว้าง และเทือกเขาดอยนางนอน และเด่นตระหง่านอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านมากนัก ขณะเดียวกันมีการสร้างเป็นเพิง ซุ้ม ชิงช้า สระน้ำ ฯลฯ ให้ได้นั่งพักผ่อนชมวิวได้เป็นอย่างดีด้วย ซึ่งทาง พ.ต.ท.ฉันทฤทธิ์ ก็ได้ขอให้มีการนำไปดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบ.