ถึงเชียงรายแล้ว แม่หลงเดินทางออกจากบ้าน 8 เดือนกว่าโผล่คุณหมิง
เมื่อวันที่ 15 ก.พ.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ต.บ้านดู่ อ.เมืองจ.เชียงราย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม.มอบหมายให้ พล.ต.ต.พงค์อนันต์ คล้ายคลึง ผบก.ตม 5 พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ ผกก.ตม.จว.เชียงราย ร่วมกับนายสมกิจ เกศนาคินทร์ นายอำเภอเมืองเชียงราย นายวีระศักดิ์ ชั้นบุญใส ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เชียงราย ตำรวจท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปรับตัวนางแก้วมณี อาจอ อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 70/1 หมู่ 23 ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย ซึ่งป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ และโรคซึมเศร้า โดยลูกสาวคือนางสุชาดา อาจอ อายุ 35 ปี แจ้งความหายที่ สภ.เมืองเชียงราย
และต่อมาทางเจ้าหน้าที่ สตม.ตรวจพบว่าไปปรากฎตัวอยู่ที่นครคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีน หลังจากที่ทาง สตม.ได้ให้ทาง พ.ต.ท.เรืองชัย เรืองไพศาล สารวัตร ตม.จว.เชียงราย และ ร.ต.อ.หญิงจารุวรรณ วงค์สุวรรณ รองสารวัตร ตม.จว.เชียงราย พานางสุชาดาเดินทางด้วยเครื่องบินไปรับตัวนางแก้วมณีกลับภูมิลำเนา
โดยเมื่อถึงเวลา 12.55 น.ทางเจ้าหน้าที่ได้พาตัวนางแก้วมณีและบุตรสาวถึงท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ด้วยสายการบินไชน่า อีสเทิร์น เที่ยวบินที่เอ็มยู 2597 ท่ามกลางเจ้าหน้าที่และญาติที่พากันไปรอรับอย่างเนืองแน่น ซึ่งทันทีที่ไปถึงเจ้าหน้าที่ได้พานางแก้วมณีไปทำการตรวจร่างกายเบื้องต้น ณ คลินิคท่าอากาศยาน ซึ่งพบว่าสุขภาพทั่วไปอยู่ในเกณฑ์ดีพบว่าที่เท้ามีบาดแผลจำนวนมากแต่แผลเริ่มหายหลังจากได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลในประเทศจีนมาแล้ว แต่ความจำของนางแก้วมณี ยังคงไม่สามารถให้ข้อมูลว่าเดินทางไปถึงนครคุณหมิงได้อย่างไรเพราะยังมีอาการความจำเสื่อมโดยจำได้แค่ลูกสาวที่ไปรับเท่านั้น
โดยพล.ต.ต.พงค์อนันต์ กล่าวว่า สำหรับกรณีนี้ทาง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ให้ความสำคัญอย่างมากและได้มอบหมายให้ตนได้ประสานงานกับฝ่ายต่างๆ เช่น สถานกงสุลใหญ่ของไทย ณ นครคุนหมิง สถานกงสุลใหญ่จีน ณ นครเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกระทั่งพบตัวนางแก้วมณี ที่นครคุนหมิงจนพาลูกสาวไปพบเมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา สำหรับความเป็นมานั้นทางนางสุชาดา ได้ไปแจ้งความแม่หายเอาไว้ที่ สภ.เมืองเชียงราย เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.2561 และแจ้งต่อจุดงานบริการคนต่างด้าว (ส่วนแยก อบจ.เชียงราย) ของ ตม.จว.เชียงราย เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.พงค์อนันต์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการที่นางแก้วมณีสามารถเดินทางไปไกลถึงประเทศจีนนั้นต้องรับทราบกันก่อนว่านางแก้วมณียังมีอาการหลงลืมและไม่สามารถบอกเส้นทางที่เดินทางไปให้ชัดเจน แต่ก็ทราบว่าเจ้าตัวไม่มีหนังสือเดินทางระหว่างประเทศหรือพาสปอร์ตจึงคาดว่าหากเป็นการเดินไปก็ต้องใช้ช่องทางธรรมชาติ แต่ไม่อาจทราบได้ว่าหลังจากนั้นได้เดินไปทางประเทศเมียนมา-จีน หรือ สปป.ลาว รวมทั้งไม่ทราบว่าเข้าสู่ประเทศจีนได้อย่างไรส่วนการช่วยเหลือต่อไปจะได้ส่งให้ทาง พม.ให้การช่วยเหลือทั้งด้านสวัสดิการหรือกองทุนต่างๆ เพื่อให้ดำรงค์ชีวิตอยู่กับครอบครัวได้อย่างเป็นสุขต่อไป
ทางด้านนางสุชาดา กล่าวว่า ตนดีใจมากและขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายโดยเฉพาะ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ผบก.ตม 5 ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงราย สถานกงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ทั้งไทยและจีนที่ให้การช่วยเหลือพาแม่ของตนกลับคืนสู่ภูมิลำเนาได้ เพราะตนติดตามหาแม่ที่หายไปนานกว่า 8 เดือนแล้วโดยหลังจากแจ้งคนหายเอาไว้แล้วก็ปรึกษากับสามีว่าหากแม่หายไปยังต่างประเทศจะทำอย่างไร ต่อมาทราบว่าทาง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เป็นผู้ที่ช่วยเหลือประชาชนในทุกเรื่องจึงได้ไปแจ้งต่อทาง ตม.จนได้รับการช่วยเหลือดังกล่าว โดยเฉพาะทาง ร.ต.อ.หญิงจารุวรรณ ที่เมื่อรับเรื่องแล้วก็คอยช่วยเหลือในทุกด้านมาโดยตลอด
“ตนและแม่ไม่เคยเดินทางไปประเทศจีนมาก่อนจึงไม่คาดคิดว่าแม่จะไปปรากฎตัวไกลถึงประเทศจีน จึงสอบถามแม่แล้วก็ทราบเพียงว่าท่านใช้วิธีการเดินเท้าไปอย่างเดียวโดยไม่ได้มีรถหรือเรือไปส่งโดยเดินไปเรื่อยๆ แต่จำไม่ได้ว่าไปทางประเทศเมียนมาหรือ สปป.ลาว จึงทำให้น้ำหนักตัวแม่ลดลงกว่า 20 กิโลกรัม จากเดิมน้ำหนักกว่า 60 กิโลกรัมก็เหลือเพียง 40 กิโลกรัมเท่านั้น และต่อไปจะดูแลแม่ให้ดีไม่ให้หายไปอีก” นางสุชาดา กล่าว
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ พม.ระบุว่าจะให้การช่วยเหลือนางแก้วมณีตามขั้นตอนเป็นอย่างดี โดยเริ่มต้นจากเรื่องสุขภาพเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บป่วย จากนั้นก็จะมีกองทุนให้การช่วยเหลือเบื้องต้น และดูเรื่องบัตรสวัสดิการต่างๆ ว่าครบถ้วนหรือไม่ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าได้ไปลงทะเบียนเป็นผู้รับสวัสดิการผู้สูงอายุด้วยตัวเองแล้วเมื่อเดือน พ.ค.2561 และจะเริ่มได้รับเงินสวัสดิการตั้งแต่เดือน ก.ย.2562 เป็นต้นไป ส่วนระยะยาวก็จะดูเรื่องการประกอบอาชีพว่าสามารถทำสิ่งใดได้บ้างต่อไป.