ติดตั้งภาพ “THE HEROES” หน้าถ้ำหลวง-ตะลึงดินสีทองไม่ต้องทาสี
เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงรายว่า ภาพวาด”THE HEROES” ยาว 13 เมตร กว้าง 3 เมตร เกี่ยวกับปฏิบัติการช่วยเหลือทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีจำนวน 13 คนซึ่งติดอยู่ในถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย และภาพ “นางนอน” ซึ่งเป็นภาพขนาดยาว 4 เมตรกว้าง 3 เมตร มีเนื้อหาเกี่ยวกับตำนานดอยนางนอนจำนวน 2 ใบ ซึ่ง อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ และศิลปินชาวเชียงราย ได้ร่วมกันวาด ได้ทำการขนย้ายอย่างระมัดระวังเนื่องจากเป็นภาพสีน้ำมันบนผืนผ้าใบที่อ่อนตัว ทำให้ต้องใช้โครงเหล็กและรถบรรทุกที่มีความยาวขนรวมทั้งใช้รถยกทำการยกขึ้นลงระยะทางประมาณ 63 กิโลเมตร ได้ถึงที่หมายหน้าศาลาอนุสรณ์สถาน
โดยเจ้าหน้าที่และศิลปินประมาณ 20-30 คน ได้ช่วยกันลำเลียงภาพวาดเข้าทางประตูหน้าของศาลาที่มีความกว้างประมาณ 5 เมตรก่อนจะนำไปตั้งไว้ที่เพดานด้านหลัง ซึ่งใช้เป็นสถานที่ติดตั้งถาวรได้ในที่สุด ทั้งนี้ศาลาอนุสรณ์สถานดังกล่าวมีความยาว 20 เมตร และมีห้องน้ำแยกออกเป็นอีกจำนวน 20 ห้องด้วย
โดยอาจารย์สมลักษณ์ ปันติบุญ ศิลปินช่างไม้ ซึ่งเป็นแม่งานในการก่อสร้าง เปิดเผยว่า ศาลาไม้หลังนี้สร้างมาได้ 4 เดือนแต่คืบหน้ากว่า 95% แล้วเหลือเพียงงานตกแต่งทั่วไปเพราะทุกคนทุ่มเทแรงกายแรงใจหากว่าเป็นการก่อสร้างปกติคงใช้ระยะเวลาร่วม 1 ปีครึ่ง
ทั้งนี้ศาลาสร้างด้วยศิลปะให้มีความกลมกลืนกับธรรมชาติมากที่สุด และใช้ศิลปะร่วมสมัยมีช่องระบายอากาศที่มีการฉลุลายไม้เป็นลวดลายของชาวไทใหญ่ ไทลื้อ ฯลฯ ที่เป็นเอกลักษณ์เอาไว้ระหว่างชั้นหลังคาที่มี 2 ชั้นและผนังทุกด้านเพื่อให้มีลมถ่ายเทได้ตลอดทั้งปีส่วนด้านหน้าใช้กระจก เนื่องจากอาจารย์เฉลิมชัย มีความเป็นห่วงว่าถ้ามีความชื้นมากและจะทำความเสียหายให้ภาพซึ่งตนยืนยันว่าเมื่อมีช่องระบายอากาศเช่นนี้จะช่วยลดความชื้นลงได้เพราะในห้องไม่มีเครื่องปรับอากาศ
อาจารย์สมลักษณ์ กล่าวด้วยว่า การสร้างศาลาที่หน้าถ้ำหลวงเราได้พบสิ่งวิเศษสุดอีกประการคือดินที่ใช้ก่อสร้าง ซึ่งได้มาจากการขุดเสาตอม่อบริเวณใต้จุดก่อสร้างพบว่าดินมีความละเอียด นุ่มและมีสีทอง เมื่อนำมาใช้ผสมกับคอนกรีตในอัตรา 15% ต่อ 85% พบว่าทำให้เกิดพื้นผิวที่ใช้คอนกรีตเทและฉาบที่พนังมีสีทองที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะโดยที่ไม่ต้องใช้การทาสีแต่อย่างใด รวมทั้งยังกลมกลืนเข้ากันได้กับสีไม้สัก หลังคาและธรรมชาติรอบข้างที่เป็นป่าเขาเขียวขจีอีกด้วย ซึ่งตนมีประสบการณ์ในการทำงานดินมายาวนานกว่า 30 ปีไม่เคยพบเห็นดินที่งดงามอย่างนี้มาก่อน
“ดินมีสีเหลืองเหมือนกับโคลนที่ไหลออกมาจากถ้ำในช่วงที่เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือเด็กๆ ในถ้ำ และคงเป็นชนิดเดียวกันเพราะอยู่ในที่เดียวกันโดยเป็นดินที่มีส่วนผสมของเหล็กอ๊อกไซด์ที่อยู่ในดิน ซึ่งทำให้เนื้อมีสีทองนุ่มอย่างไม่น่าเชื่อ
สำหรับฐานด้านหน้าศาลาอนุสรณ์สถานได้จัดเตรียมให้มีความพร้อมในการรองรับอนุสาวรีย์รูปปั้นนาวาตรีสมาน กุนัน หรือจ่าแซม โดยจะนำไปติดตั้งในวันที่ 13 ธ.ค.นี้” อาจารย์สมลักษณ์ กล่าว.