คปภ. ให้ความรู้ชุมชน การประกันภัยเคลื่อนที่แบบครบวงจรล
เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2561 ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ. พร้อมผู้บริหารจากภาคธุรกิจประกันภัย ลงพื้นที่ภาคเหนือให้ความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนในชุมชนต่างๆ ในลักษณะ Mobile Unit หรือศูนย์บริการประชาชนด้านการประกันภัยเคลื่อนที่แบบครบวงจร ที่ชุมชนบ้านปางขอน ตำบลห้วยชมภู อำเภอเมืองเชียงราย เป็นพื้นที่ส่งท้ายปิดโครงการ “คปภ. เพื่อชุมชนปี 2” โดยมี นายภาสกร บุญญลักษม์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาชนในพื้นที่ ให้การต้อนรับและร่วมพิธีปล่อยขบวนรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย เพื่อต้องการให้พี่น้องในชุมชน ได้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการประกันภัยให้มากขึ้น เกิดความตระหนักรู้ถึงความจำเป็นและประโยชน์ของการประกันภัย รวมทั้งเกิดความเชื่อมั่นว่าระบบประกันภัยสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการ บริหารความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินให้กับตนเองและครอบครัวได้ ซึ่งจะเป็นการพัฒนาชุมชนให้เกิดความเข้มแข็งอีกทางหนึ่ง พร้อมรับฟังประเด็นปัญหาและข้อเสนอแนะของชุมชน เพื่อนำข้อมูลมา พัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ควบคู่กับการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริง
ซึ่งในปีนี้ได้มีการนำโครงการนี้มาขยายผลต่อยอดเข้าถึงพื้นที่ให้ครอบคลุมมากขึ้น ใน 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดร้อยเอ็ด ชุมพร หนองบัวลำภู ลำปาง และเชียงราย ที่ชุมชนบ้านปางขอน ตำบลห้วยชมภู อำเภอเมืองเชียงราย เพื่อพบปะประชาชน พร้อมรับฟังสภาพปัญหา รวมทั้งข้อเสนอแนะที่เกี่ยวข้องกับด้านประกันภัยของชุมชน ซึ่งจังหวัดเชียงราย มีนักท่องเที่ยวได้แวะเวียนมาเที่ยวในจังหวัดเชียงรายเป็นจำนวนมากถึง 2.52 ล้านคน และมีหมู่บ้านกะเหรี่ยงที่ได้รับการพัฒนาคุณภาพโดยใช้การท่องเที่ยว โดยการนำช้างมาเป็นพาหนะนำเที่ยวหมู่บ้านชาวเขา จนเป็นที่นิยมชื่นชอบของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ดังนั้น การนำกรมธรรม์ประกันภัยทั้งแบบที่กฎหมายบังคับให้ทำและแบบสมัครใจ สามารถเข้าไปบริหารความเสี่ยงในจังหวัดได้อย่างครบวงจรน่าจะเป็นเรื่องที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการทำประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 การทำประกันภัยอุบัติเหตุให้กับนักท่องเที่ยวและมัคคุเทศก์
สำหรับข้อมูลของชุมชนบ้านปางขอน พบว่ามีอัตราการทำประกันภัย พ.ร.บ. ของรถจักรยานยนต์ยังอยู่ในระดับที่ต่ำมาก โดยมีรถจักรยานยนต์ที่จดทะเบียน 528 คัน ทำประกันภัย พ.ร.บ.เพียง 200 คัน คิดเป็นร้อยละ 37.88 แต่ในขณะที่รถยนต์มีทำประกันภัย พ.ร.บ. ครบ 100% คือจดทะเบียน 100 คัน มีการทำประกันภัยครบทั้ง 100 คัน ซึ่งต้องขอความร่วมมือในการรณรงค์ส่งเสริมให้มีการจัด ทำประกันภัย พ.ร.บ.มากขึ้นในชุมชนบ้านปางขอน และชุมชนอื่นๆ ให้ครบ 100% ต่อไป