ทุนไทยร่วมจีนเปิดศูนย์จำหน่ายจิวเวอร์รี่ ริมน้ำโขงรับนักท่องเที่ยว
เมื่อวันที่ 18 ส.ค.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์การค้าโกลเด้นไทรแองเกิ้ล เทรดดิ้งเซ็นเตอร์ ตั้งอยู่ในท่าเรือห้าเชียงเทรดดิ้ง สามเหลี่ยมทองคำ บ้านสบรวก หมู่ 1 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย นายอภิชาติ ศรีสุวรรณ ปลัดอำเภอเชียงแสน ผู้แทนนายอำเภอเชียงแสน เป็นประธานเปิดตัวศูนย์การค้าโกลเด้นไทรแองเกิ้ล เทรดดิ้งเซ็นเตอร์ โดยมีนายจูฉวนชู จูจ่ง น.ส.อำไพ งามโนนทอง ผู้บริหารบริษัทเรือท่องเที่ยวยูนนาน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัทหลานเหม่ย (2017) ทัวร์ จำกัด ให้การต้อนรับและกล่าวรายงาน มีหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ นักธุกิจภาคเอกชน ภาคการท่องเที่ยว เข้าร่วมในพิธีจำนวนมาก
โดย นายจูฉวนชู จูจ่ง กล่าวว่า แม่น้ำโขงมีระยะทาง 4,880 กม. ไหลผ่าน 6 ประเทศ ทั้งประเทศ จีน สปป.ลาว เมียนมา ไทย เวียด นามและกัมพูชา และท่าเรือกวนเหล่ย สิบสองปันนา มณฑลยูนนานของจีน ห่างจากท่าเรือเชียงแสน 266 กม.ทางแม่น้ำโขง ทำให้การเดินทางสะดวกปลอดภัย รวมไปถึงความสวยงามของช่องแคบ ภูเขา แม่น้ำที่ใสสะอาด ทำให้การเดินทางมากับเรือซึ่งใช้เวลาประมาณ 10 ชม. ซึ่งการเดินทางหนึ่งวันในหนึ่งแม่น้ำ ในสี่ประเทศ แตกต่างกันทั้งทัศนียภาพและประเพณี หาแบบนี้ได้น้อยมาก หากได้เดินทางเส้นนี้ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมาก
นายจูฉวนชู กล่าวด้วยว่า บริษัทของเราและในเครือมีการดำเนินกิจการครอบคลุมหลายด้านทั้งการบริการทางเรือท่องเที่ยวลุ่มน้ำโขง การโรงแรม การแสดงโรงละคร บริษัททัวร์ รวมไปถึงศูนย์การค้าที่ขายเครื่องประดับของที่ระลึก ซึ่งในวันนี้ที่มาเปิดศูนย์การค้าฯ บริเวณสามเหลี่ยมทองคำเพราะเล็งเห็นการพัฒนาการท่องเที่ยวในประเทศไทย ที่ยังคงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะรองรับการจับจ่ายซื้อของฝาก เครื่องประดับของนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนเองหรือชาติตะวันตก รวมไปถึงนักท่องเที่ยวคนไทยด้วย นอกจากนนี้ยังเป็นการขยายโอกาสติดต่อระหว่างธุรกิจเครื่องอัญมณี รวมไปถึงเป็นการสร้างงานในท้องถิ่นเพราะเราจ้างคนท้องถิ่นทำงานในศูนย์การค้าฯมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ทำให้มีเงินทุนหมุนเวียนสร้างมูลค่าให้กับการท่องเที่ยวของ จ.เชียงรายอีกด้วย
“หลังจากทางบริษัทของเราได้เปิดดำเนินการเดินเรือท่องเที่ยวทางแม่น้ำโขงจากท่าเรือกวนเหล่ยมาที่ท่าเรือเชียงแสนตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.60 จนมาถึงวันนี้ มีการออกเรือทั้งสิ้น 59 เที่ยว รับส่งนักท่องเที่ยวมากกว่า 5,000 คน ซึ่งด้วยการพัฒนาทางสังคมและเศรษฐกิจของประเทศจีน ประชาชนจีนจึงถือเป็นกลุ่มท่องเที่ยวหลักกลุ่มใหญ่ที่สุดในโลก มีสถิติขาออกถึงปีละ 130 ล้านคน ดังนั้นเราจึงคาดหวังว่าการเดินทางมาที่ประเทศไทยของคนจีนทางเรือแม่น้ำโขงจะมีอนาคตที่สดใส นอกจากนี้เรายังพร้อมที่จะปฎิบัติตามกฎหมายไทย ตามข้อกำหนดของรัฐบาล รวมไปถึงหน่วยงานปกครองในท้องถิ่น ซึ่งเราให้ความสำคัญ และหวังว่าจะได้รับการช่วยเหลือในด้านการขออนุญาตการลงทุนต่างๆด้วย” นายจูฉวนชู กล่าว
ทางด้าน น.ส.อำไพ กล่าวว่า การเปิดศูนย์จำหน่ายเครื่องประดับ ในพื้นที่เพื่อเป็นการรองรับธุรกิจการท่องเที่ยวของเชียงรายและของประเทศไทย ซึ่งเรามองเห็นโอกาสที่จะมีการเพิ่มมูลค่าตลาดรวมไปถึงจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่ โดยเฉพาะที่เชียงแสนเป็นจุดที่มีเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านถึง 3 ประเทศ ดังนั้นจึงเป็นที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางมาท่องเที่ยว และการเปิดศูนย์จำหน่ายอัญมณีในครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นรายแรกของ อ.เชียงแสน ที่มีการเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ มีการรับรองจากหน่วยงานที่ถูกต้อง จึงสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่จะนำเงินตรามาจับจ่ายในบ้านเรา นอกจากนี้ยังเป็นการขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวของไทยและจีน เพื่อต่อยอดการส่งเสริมการลงทุนในด้านอื่นๆอีกต่อไปได้ในอนาคต
ด้านนายอภิชาติ กล่าวว่า นับเป็นโอกาสอันดีที่มีบริษัทการท่องเที่ยวของไทยและจีน ร่วมกันผลักดันเศรษฐกิจของชุมชนสามเหลี่ยมทองคำ เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยว เพิ่มรายได้ให้กับประชากรในท้องถิ่น ซึ่งสอดคล้องกับการรองรับเส้นทางการค้า AEC ที่กำลังเติบโตอยู่ในขณะนี้ และยังเสริมสร้างความสัมพันธ์กับทุกภาคส่วนทั้งทางด้านคมนาคม การท่องเที่ยวในกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งจะนำมาถึงการค้า การเพิ่มรายได้ให้ซึ่งกันและกันระหว่างไทยและจีน ส่งผลถึงการสร้างมิตรภาพและความสัมพันธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้นต่อไป.
