มร.ชร. จับมือเอกชนปลูกดาวอินคาแข่งเวียดนาม-ตลาดโลกบูม
เมื่อวันที่ 8 ส.ค.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (มร.ชร.) ผศ.ดร.ศรไชย มุ่งไธสง อธิการบดี มร.ชร.ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการวส่งเสริมการร่วมขับเคลื่อนพืชถั่วดาวอินคา เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน กับนายวิชัย วิศิษฐฎากุล ประธานกรรมการบริษัทเชียงรายเกษตรกรรมก้าวหน้า จำกัด โดยมีผู้บริหารบริษัทฯ ดร.ไพโรจน์ ด้วงนคร รองอธิการบดี มร.ชร. ผศ.ดร.สุทธิพร ธเนศสกุลวัฒนา ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาเศรษฐกิจ พลังงานและสิ่งแวดล้อม มร.ชร.และผู้บริหาร มร.ชร.เข้าร่วมครบครัน โดยการบันทึกข้อตกลงมีขึ้นเพื่อให้ทั้ง 2 ฝ่ายร่วมกันพัฒนาบุคลากร นักวิทยาศาสตร์และเกษตรกรเกี่ยวกับการปลูกและดูแลรักษาพืชถั่วดาวอินคา การพัฒนาสายพันธุ์ การพัฒนากลุ่มเกษตรกร ฯลฯ
ดร.ไพโรจน์ กล่าวว่า เชื่อว่าพืชถั่วดาวอินคาสามารถเจริญเติบโตได้ดีกับภูมิประเทศและอากาศของภาคเหนือ โดยเฉพาะมีผู้ที่มีองค์ความรู้ด้านนี้ อย่างบริษัท เชียงรายเกษตรกรรมก้าวหน้า จำกัด ซึ่งได้มีการพัฒนาการปลูกและแปรรูปผลิตภัณฑ์กระทั่งพบว่าประเทศเวียดนามได้ว่าจ้างให้นายวิชัยไปศึกษาวิจัย ที่ประเทศเวียดนาม เพราะก็กำลังมีการเร่งพัฒนาการปลูกพืชชนิดนี้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นในโอกาสที่บริษัทดำเนินการใน จ.เชียราย ทาง มร.ชร.จึงได้พยายามแสวงหาความร่วมมือเพื่อนำองค์ความรู้มาเผยแพร่ต่อเกษตรกรไทยและภาคเหนือได้อย่างยั่งยืนต่อไป
นายวิชัย กล่าวว่า ถั่วดาวอินคา มีต้นกำเนิดที่ป่าอะเมซอน ประเทศเปรู ต่อมาประเทศจีนมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพจึงได้นำไปพัฒนาการปลูกที่เมืองจิ่งหง เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน ประเทศจีน แต่มีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ที่มีการปลูกยางพาราเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเมื่อตนมีโอกาสไปศึกษาดูงานจึงได้ร่วมมือนำพันธุ์ถั่วดาวอินคา มาปลูกที่ประเทศไทยเป็นรายแรก ซึ่งเมื่อได้ศึกษาและปลูกแล้วพบว่าเป็นพืชที่มีคุณค่าทางอาหาารอย่างมากและเคยได้รับรางวัลชนะเลิศอาหารที่มีคุณค่าในการประกวดระดับโลกที่ประเทศฝรั่งเศสมาแล้วด้วย
นายวิชัย กล่าวด้วยว่า แต่เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่มีการรับรองใดๆ ในประเทศ จึงเป็นเรื่องที่ต้องมาเริ่มต้นศึกษาวิจัยกันอย่างเป็นทางการและเป็นโอกาสดีที่ได้ร่วมกับทาง มร.ชร.เพื่อยกระดับมาตรฐานและส่งเสริมเกษตรกรไทยไปพร้อมๆ กัน เพราะพืชชนิดนี้นอกจากจะทรงคุณค่า ยังให้ราคาดีมากแต่ประเทศไทยยังไม่มีผลผลิตเพียงพอแม้แต่ใน สปป.ลาว และประเทศข้างเคียงก็ไม่มีขณะที่ทางประเทศในยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฯลฯ เข้ามากว๊านซื้อผลผลิตและผลิตภัณฑ์ไปหมดและล่าสุดประเทศสิงคโปร์ก็มาสั่งซื้ออีก ขณะที่ในอนาคตสามารถพัฒนาเป็นแมกโครไบโอติกหรืออาหารสำหรับสายยางให้ผู้ป่วย คนชราและทารกได้ด้วย ล่าสุดบริษัทเองก็ได้พัฒนาเป็นเวย์โปรตีนจากถั่วดาวอินคาและกำลังจดสิทธิบัตรต่อไปอีกด้วย
ทางด้าน ผศ.ดร.สุทธิพร กล่าวว่า ล่าสุดทางศูนย์ฯ ได้พัฒนาเกษตรกร นำโดย นายยุทธศาสตร์ แลเชอกู่ ซึ่งเป็นศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราน ที่จะนำไปปลูกพื้นที่หมู่บ้านห้วยหมาก ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เนื่องจากศูนย์ฯ เคยส่งเสริมการปลูกดอกเก๊กฮวยพื้นที่หมู่บ้านม้งเก้าหลัง และพื้นที่ใกล้เคียง ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง มาแล้วจึงต้องเฉลี่ยไปปลูกถั่วดาวอินคาด้วย ซึ่งในปัจจุบันเราต้องเร่งพัฒนาเพราะในประเทศเวียดนามก็เริ่มมีการปลูกได้กว่า 6,000 ไร่แล้วและยังว่าจ้างนายวิชัยไปสนับสนุนอีกด้วยเราจึงถือโอกาสนี้ทำข้อตกลงเพื่อนำมาพัฒนาเกษตรกรไทยต่อไป
ทั้งนี้ นายยุทธศาสตร์ กล่าวว่า พื้นที่บนภูเขาที่มีกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลายอาศัยอยู่ส่วนใหญ่ผู้คนมีฐานะยากจนและเป็นพื้นที่ที่มักเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เพราะการปลูกพืชเกษตรต่างๆ มักถูกพ่อค้าคนกลางกดราคาให้ต่ำลง ผู้คนที่เรียนหนังสือจบมักลงมาทำงานตามตัวเมืองดังนั้นตนจึงจะนำถั่วดาวอินคาไปส่งเสริมการปลูกก่อนอย่างน้อย 1 ไร่ และค่อยๆ ขยายผลไปยังเพื่อนบ้านคนอื่นๆ ต่อไป
ขณะที่ ผศ.ดร.ศรไชย กล่าวว่า เป็นโอกาสที่ดีมากที่บริษัทเชียงรายเกษตรกรรมก้าวหน้า จำกัด ได้เข้ามาดำเนินการใน จ.เชียงราย และทางศูนย์ฯ ของเราก็ตื่นตัวรวมทั้งมีลูกศิษย์อย่างนายยุทธศาสตร์ ที่จะสามารถนำไปต่อยอดได้ เชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งลูกศิษย์ที่ประสบความสำเร็จเพราะจบการศึกษาวิชาเอกภาษาอังกฤษที่ มร.ชร.เหมือนกับนายอายุ จือปา หรือน้องลี จากชาติพันธุ์อาข่าเหมือนกันและจบภาษาอังกฤษเหมือนกันแล้วสามารถไปพัฒนากาแฟอาข่าอาม่า จนประสบความสำเร็จในระดับโลกมาแล้ว.