ข่าวประชาสัมพันธ์

ธ.ก.ส.เชียงรายมุ่งช่วยข้าวอินทรีย์ซื้อสูงกว่าตลาด 1,000 บาท

เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายดุสิต เหลี่ยมวัฒนา ผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จ.เชียงราย กล่าวว่า ปัจจุบันสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.เชียงราย จำกัด ได้ร่วมกับบริษัทเอกชนและโรงสีในพื้นที่ จ. เชียงราย ทำการรวบรวมโดยในฤดูนาปรังที่ผ่านมาสามารถรวบรวมผลผลิตข้าวของเกษตรกรที่เป็นข้าวอินทรีย์แล้วนำส่งจำหน่ายให้กับเอกชน โดยเอกชนจะรับซื้อในราคาที่สูงกว่าข้าวในท้องตลาดตันละกว่า 1,000 บาท โดยถือเป็นข้อตกลงเพื่อการช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกข้าวชนิดนี้ไม่ว่าจะเป็นข้าวขาวทั่วไป ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวหอมมะลิแดง ข้าวหอมนิล ฯลฯ ที่เกษตรกรนิยมปลูกกันอยู่ในปัจจุบัน

นายดุสิต กล่าวด้วยว่า ในฤดูกาลข้าวนาปรังที่ผ่านมาพบว่าสามารถรวบรวมผลผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวอินทรีย์ได้จำนวน 12,000 ตัน ซึ่งได้มีการซื้อในราคาที่สูงกว่าท้องตลาด 1,000 บาทดังกล่าวไปแล้วโดยครบถ้วน โดยหากช่วงเวลานั้นๆ ผลผลิตของเกษตรกรให้ราคาต่ำกว่าท้องตลาดก็จะเพิ่มอัตราส่วนราคาเพื่อให้ได้ราคามากกว่าตามจำนวนที่กำหนดดังกล่าว แต่หากว่าราคาเพิ่มสูงขึ้นก็จะลดหลั่นกันไปเพื่อให้ได้มากกว่า 1,000 บาทดังกล่าวซึ่งถือว่าทำให้ได้ราคาดีอย่างมาก ทั้งนี้ในการดำเนินการต่อไป ทาง ธ.ก.ส.เชียงราย จะรวบรวมผลผลิตเพื่อให้บริษัทเอกชนในฤดูข้าวนาปีนี้อีกจำนวน 24,000 ตัน ซึ่งก็จะทำให้ผู้ปลูกข้าวอินทรีย์ได้ประโยชน์และผู้บริโภคก็ได้บริโภคข้าวอย่างปลอดภัยต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วันเดียวกัน นายดุสิต ยังได้เป็นประธานแถลงการขับเคลื่อนโครงการและนโยบายสำคัญของรัฐบาลตามแนวทาง 3 มาตรการ 9 โครงการของ ธ.ก.ส.ที่บริเวณด้านหน้าสำนักงาน ธ.ก.ส.เชียงราย ว่าที่ผ่านมา ธ.ก.ส.มุ่งให้ความรู้ด้านการเงินและผู้มีรายได้น้อยอย่างต่อเนื่อง และมีการพัฒนาอาชีพเพื่อเสริมรายได้ ส่วนด้านการลดภาระหนี้สินทั้งในระบบและนอกระบบได้มีการปรับโครงสร้างหนี้กรณีมีภาระหนัก มีโครงการคืนดอกเบี้ยให้ลูกค้าที่ชำระหนี้ตามกำหนด ด้านการมอบบัตรสวัสดิการของรัฐนั้นใน จ.เชียงราย มีผู้ถือบัตรจำนวน 280,429 ราย ปัจจุบันทางได้สัมภาษณ์ไปแล้วจำนวน 121,699 ราย มีเกษตรกรที่ต้องการพัฒนาอีกจำนวน 92,192 ราย ซึ่งทาง ธ.ก.ส.ได้มีการดำเนินการตามตั้งแต่เดือน มิ.ย.2561-31 มี.ค.2562 ต่อไป

นายดุสิต กล่าวด้วยว่า นอกจากมาตรการต่างๆ ดังกล่าวแล้วทาง ธ.ก.ส.ยังดำเนินโครงการตลาดประชารัฐเพื่อเป็นแหล่งจำหน่ายผลผลิตและผู้บริโภคได้มีโอกาสซื้อพืชผักที่ปลอดสารพิษมาตั้งแต่ปี 2559 โดยเปิดที่หน้าสำนักงาน ธ.ก.ส.เชียงราย และตลาดประชารัฐทั้งจำนวน 23 จุด ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 3 ล้านบาทด้วย

ขณะเดียวกันทาง ธ.ก.ส.ได้ดำเนินโครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อลดต้นทุนปัจจัยการผลิตโดยมีการมอบบัตรสวัสดิการสินเชื่อแห่งรัฐ “บัตรเกษตรสุขใจ” เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายผ่านร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการโดยมีเป้าหมายมอบให้ 3 ล้านรายทั่วประเทศ วงเงินรายละไม่เกิน 30,000 บาท เกษตรกรสามารถนำไปซื้อปัจจัยการผลิต เช่น เมล็ดพันธุ์ น้ำมันเชื้อเพลิง ปุ๋ย ฯลฯ ได้ต่อไป.