งานโคขุนฯ ผุดอาชีพใหม่-ดันมีโรงเชือด
เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ลานกาสะลอง ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงราย อ.เมือง จ.เชียงราย จ.เชียงราย นายสัมฤทธิ์ สวามิภักดิ์ ปลัด จ.เชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “โคขุนเชียงราย เนื้อโคคุณภาพ ท้องถิ่นล้านนา” ซึ่งจัดโดยสำนักงานพาณิชย์ จ.เชียงราย ได้ร่วมกับเครือข่ายโคเนื้อล้านนา นำโดย นายนเรศ รัศมีจันทร์ ประธานเครือข่ายฯ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก การจัดงานดังกล่าวมีความสนใจของผู้คนเป็นจำนวนมากเพราะเนื่องจากการส่งเสริมด้านการเลี้ยงและจำหน่ายเนื้อโคขุนเป็นเรื่องใหม่สำหรับพื้นที่เชียงราย
ทั้งนี้ งานโคขุนเชียงราย เนื้อโคคุณภาพ ท้องถิ่นล้านนา จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 8-10 มิ.ย.2561 ซึ่งจะมีการจำหน่ายเนื้อโค การแข่งขันประกวดการทำอาหารจากเนื้อโคขุน การแสดงบนเวที ตลาดสินค้าประชารัฐ ฯลฯ
โดย นายสัมฤทธิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาประชาชนมีการปลูกพืชเกษตรกันเป็นจำนวนมากทำให้พืชประสบปัญหาราคาตกต่ำ ขณะที่การเลี้ยงโคเนื้อนั้นเดิมมีความเข้าใจกันว่าสามารถเลี้ยงได้ดีในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคกลาง แต่เมื่อพบว่าในปัจจุบันทางเครือข่ายโคเนื้อล้านนา มีการเลี้ยงโคเนื้อได้อย่างมีมาตรฐานทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้เข้าไปส่งเสริมอย่างต่อเนื่องต่อไป แต่การพัฒนาการเลี้ยงก็ต้องขึ้นอยู่บนพื้นที่ฐานการสร้างมาตรฐานที่ดีเพื่อให้ได้ตลาดที่มีคุณภาพ ซึ่งก็เชื่อว่าอาชีพนี้จะเป็นอนาคตที่ดีของเกษตรกรชาวเชียงรายได้เป็นอย่างดีต่อไป
ด้านนางพิมล กล่าวว่า ปัจจุบันอาชีพที่สามารถสร้างรายได้คือการเลี้ยงโคเนื้อ เพราะพบว่าระหว่างปี 2550-2557 ปริมาณการเลี้ยงลดลงอย่างต่อเนื่องเพราะรัฐบาลที่ผ่านมามีการส่งเสริมให้มีการปลูกพืชเศรษฐกิจอื่นแทนและมีการประกันรายได้ให้กับเกษตรกร ทำให้เกษตรกรที่เลี้ยงโคเนื้อขาดแรงจูงใจทั้งการเลี้ยงและจำหน่าย นอกจากนี้บางส่วนถูกส่งเข้าโรงเชือดและส่งไปจำหน่ายยังต่างประเทศทำให้ปริมาณเนื้อลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งจากสถานการณ์นี้ทำให้ จ.เชียงราย เล็งเห็นโอกาสที่จะทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่ดี มั่นคงและยั่งยืน รวมทั้งสนับสนุนนโยบายอาหารปลอดภัยสู่ครัวโลก จึงได้มีการส่งเสริมโดยส่วนหนึ่งคือการจัดงานนี้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของเกษตรกรต่อไป
ทางด้านนายนเรศ กล่าวว่า เครือข่ายโคเนื้อล้านนา มีสมาชิก 291 ราย มีโคเนื้อประมาณ 1,300 ตัว โดยมีรับประกันราคาซื้อขายให้สมาชิกอย่างชัดเจน ซึ่งเกษตรกรที่สนใจสามารถติดต่อเพื่อพัฒนามาตรฐานการเลี้ยงโคขุนได้โดยปัจจุบันเน้นเลี้ยงพันธุ์บีฟมาสเตอร์เป็นหลัก เพราะเหมาะสมกับประเทศไทยและได้คุณภาพมาก ทั้งนี้ในปัจจุบันพบว่าตลาดมีความต้องการเนื้อโคขุนอย่างมากกว่าเดือนละ 300 ตัว แต่ปรากฎว่าเรากลับไม่สามารถผลิตให้ได้ทัน
“การส่งเสริมการเลี้ยงจึงเป็นสิ่งที่ดี กระนั้นปัญหาในพื้นที่คือยังไม่มีโรงเชือดมาตรฐานตั้งอยู่โดยต้องนำโคไปดำเนินการพื้นที่ จ.พะเยา ซึ่งเสียต้นทุนไปเที่ยวละกว่า 4,000-5,000 บาท ล่าสุดจึงได้หารือกับกรมปศุสัตว์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอเปิดโรงเชือดโคขุนมาตรฐานซึ่งใช้งบประมาณราว 15 ล้านบาท คาดว่าจะเห็นผลในปี 2562-2563 ซึ่งก็จะสามารถยกระดับการพัฒนาการเลี้ยงและการจำหน่ายโคขุนในพื้นที่ จ.เชียงราย ได้เป็นอย่างดี” นายนเรศ กล่าว.