ผช.ผญบ.หลังตกเป็นผู้ต้องหาคดียิงคาด่านแม่สรวย จ่อร้องเยียวยา
เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2561 นายวุฒิชัย อิ่นใจ อายุ 47 ปีบ้านเลขที่ 10 หมู่ 14 ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 เปิดเผยว่า ในปัจจุบันคดีความกรณีตนถูกดำเนินคดีในเหตุการณ์นายศรชัย สถิตย์รักษ์ดำรง อายุ 35 ปีชาวบ้าน หมู่ 16 ต.ท่าก๊อ ถูกยิงจนเสียชีวิตขณะขับรถผ่านด่านตรวจชุมชนบ้านแม่ต๋ำ หมู่ 4 ต.ท่าก๊อ เหตุเกิดวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา จนเป็นข่าวดังได้จบสิ้นลงแล้ว
โดยตนถูกดำเนินคดีกรณีดังกล่าว 4 ข้อหาคือฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น ข้อหาพกพาอาวุธปืน และข้อหายิงปืนในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร ซึ่งล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและอัยการเห็นพ้องกันไม่สั่งฟ้องในข้อหาที่ 1-3 คงเหลือเพียงข้อหาที่ 4 ซึ่งมีโทษปรับซึ่งตนได้ดำเนินการตามกฎหมายไปเรียบร้อยแล้วทำให้เรื่องที่เกิดในคดีนี้และเกี่ยวข้องกับตนสิ้นสุดลงไปโดยปริยาย
โดย นายวุฒิชัย กล่าวว่า ตนยอมรับว่าคดีนี้ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตของตนอย่างมาก เพราะทันทีที่ต้องได้ตกเป็นผู้ต้องหาก็ขาดอิสระภาพและต้องดิ้นรนต่อสู้คดีมาโดยตลอด รวมทั้งยังมีผลกระทบในสังคม โดยช่วงที่ตนประกันตัวออกมาสู้คดีก็ถูกผู้คนเฝ้าติดตามว่าจะเป็นคนร้ายจริงหรือไม่ทำให้สู้หน้าผู้คนแทบไม่ได้ หรือแม้แต่คนในครอบครัวเมื่อไปทางไหนก็ถูกสังคมมองอย่างสงสัย ทำให้เมื่อครั้นที่ตนยังอยู่ในเรือนจำช่วงรอคดีก็คิดหนักถึงขั้นอยากจะใช้สายไฟรัดตัวเองเพื่อฆ่าตัวตาย แต่มีคนห้ามเอาไว้ประกอบกับตนมีครอบครัวให้ดูแลเป็นภรรยาและลูกอีก 2 คน ทำให้แข็งใจสู้มาได้นานประมาณ 5 เดือนจึงหลุดพ้นมาได้ดังกล่าว
นายวุฒิชัย กล่าวด้วยว่า การที่ตนออกมาเปิดเผยครั้งนี้เพราะต้องการให้สังคมรับทราบว่าตนไม่ได้เป็นคนกระทำความผิด และการตั้งด่านตรวจชุมชนในวันดังกล่าวก็ไม่ได้มีการดื่มสุรามึนเมาโดยทุกคนปฏิบัติหน้าที่ด้วยดี ต่อมาพบรถยนต์เก๋งของผู้ตายขับผ่านมาจึงให้สัญญานหยุดตรวจเมื่อรถไม่หยุดก็ใช้ปืนขนาด 9 มม.ยิงขึ้นฟ้าเพียงเพื่อให้รถหยุดไม่ได้ยิงไปที่รถแต่อย่างใด ต่อมาเมื่อมีการเสียชีวิตและตำรวจสามารถจับกมผู้ต้องหาตัวจริงได้ตนก็ไม่ต้องโทษในข้อหาหนักโดยเหลือเพียงข้อหายิงปืนในที่สาธารณะดังกล่าว
“ผมเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมาย่างเข้าปีที่ 14 โดยทำหน้าที่ด้วยดีมาตลอด จึงอยากให้ผมเป็นคนสุดท้ายที่ต้องเผชิญกับเรื่องแบบนี้ โดยขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มีความละเอียดรอบคอบและหลักฐานพยานแน่นหนาก่อนจะมีการแจ้งข้อหากับผู้ใดด้วย” นายวุฒิชัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกันทนายความของนายวุฒิชัย ระบุว่า ในขณะนี้กำลังหารือกับลูกความและรวบรวมข้อมูลความเสียหาย เพราะที่ผ่านมาต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางและสู้คดีติดต่อกันมาหลายเดือน ชีวิตประจำวันก็เปลี่ยนไปไม่สามารถทำมาหากินได้ตามปกติดังนั้น จึงกำลังพิจารณาเรียกร้องขอการเยียวยาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระนั้นก็ยังจะไม่ดำเนินการใดๆ นอกเหนือไปจากการรวบรวมข้อมูลโดยรอดูท่าทีของทางตำรวจก่อนว่าดำเนินการอย่างไรต่อไป
สำหรับคดีดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายกรมทหารราบที่ 17 ค่ายขุนเจืองธรรมมิกราช จ.พะเยา ได้ร่วมกับคลี่คลายคดีจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา,พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,และยิงปืนในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร แล้วโดยคือพลทหารวันชัย จำปา อายุ 22 ปีจากกรมทหารราบที่ 17 ที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันดังกล่าวพร้อมกับนายวุฒิชัยนั่นเอง ปัจจุบันได้ถูกดำเนินคดีแล้วโดยให้การว่าตกใจจากเหตุการณ์รถผ่านด่านตรวจจึงยิงปืนเอ็ม 16 โดยไม่ได้เจตนาจะยิงไปที่รถคันดังกล่าวเช่นกัน.
