กรมราชทัณฑ์เปิดเรือนจำดอยฮาง “แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของเชียงราย”
เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2566 ที่เรือนจำชั่วคราวดอยฮาง ต.ดอยฮาง อ.เมือง จ.เชียงราย นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เดินทางเป็นประธานในพิธีเปิดเรือนจำท่องเที่ยว “แดนดอยฮาง” โดยมี นายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ฝ่ายพัฒนา นายสมรัตน์ เข็มศิริ ผู้บัญชาการเรือนจำประธานเขต 5 เรือนจำกลางเชียงใหม่ และนายไพรัตน์ ขมินทกูล ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงราย ตลอดจนส่วนราชการ ภาคประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ร่วมพิธีเปิดอย่างคับคั่ง ซึ่งก่อนการเปิดงาน กลุ่มผู้ต้องขังได้มีการแสดงฟ้อนรำและการสาธิตการแสดงโยคะในเรือนนอน เพื่อเป็นการต้อนรับแขกที่มาเยือน สร้างความประทับแก่ผู้มาร่วมงานเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ภายในงานได้จัดแสดงและจำหน่ายสินค้า ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากงานฝีมือของกลุ่มผู้ต้องขังเรือนจำกลางเชียงราย มีทั้งเสื้อผ้า เครื่องใช้ เครื่องประดับ ของใช้ในครัวเรือนและขนมเค้ก มีบริการนวดแผนโบราณ ตอกเส้น และที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษคือการย่ำขาง โดยฝีมือของผู้ต้องขัง นอกจากนี้ภายในเรือนจำชั่วคราวดอยฮางพื้นที่ประมาณ 72 ไร่ มีการพัฒนาให้เป็นจุดท่องเที่ยว ศึกษาเรียนรู้ของบุคคลทั่วไป และเป็นสถานฝึกอาชีพของผู้ต้องขังที่หลากหลายภายใต้ชื่อแดนดอยฮาง
“แดนดอยฮาง” จะแบ่งเป็นฐานการเรียนรู้และฐานการท่องเที่ยวออกเป็น 14 ฐาน ซึ่งฐานที่ 1.ฐานบริการร้านกาแฟและอาหาร โดยมีบริการกาแฟรสชาติที่ดี หอมกรุ่น ทั้งร้อนและเย็น ยังมีบริการ ชาเย็น ชาดำ นมเย็น ตลอดจนเบเกอรี่ ขนมต่างๆ ที่มาจากฝีมือผู้ต้องขังแดนหญิง โดยมีจุดรับประทานทั้งในห้องแอร์ หรือที่นั่งสัมผัสบรรยากาศบนต้นไม้ใหญ่ ที่สวยงาม เป็นธรรมชาติ ฐานที่ 2.เป็นสวนสมุนไพร ฐานที่ 3.เรือนเพาะชำ 4.ฐานผลิตปุ๋ยจากมูลไส้เดือน ฐานที่ 5.เรือนประทับ ฐานที่ 6. สวนองุ่น ฐานที่ 7.เกษตรผสมผสาน ฐานที่ 8.ฐาน rice สาระ ฐานที่ 9.ฐานไล่แมลง ฐานที่ 10.จุลินทรีย์สุขภาพพืช ฐานที่ 11.ปรับปรุงบำรุงดิน ฐานที่ 12. การผลิตน้ำส้มควันไม้จากการเผาถ่าน ฐานที่ 13.ฐานเลี้ยงสัตว์ และฐานที่ 14. ออกแบบจัดสวนดอกไม้ โดยผู้มาเยือนสามารถเที่ยวชมได้ทั้งวัน ซึ่งสามารถเข้าชมได้ทุกวันไม่มีวันหยุดตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 16.00 น. ของทุกวัน
นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า การเปิดเรือนจำเป็นแหล่งท่องเที่ยว เป็นนโยบายของกระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ ซึ่งมีเรือนจำชั่วคราวอยู่หลายพื้นที่ ตามปกติจะใช้เรือนจำชั่วคราวเหล่านี้ฝึกอาชีพให้กับผู้ต้องขังในด้านต่างๆ อาทิการทำอาหาร การทำเบเกอรี่ การนวดแผนไทย การทำกาแฟ เพื่อฝึกทักษะของผู้ต้องขังเตรียมความพร้อมก่อนออกไปทำงานข้างนอกหลังพ้นโทษให้มีงานทำ การเปิดแหล่งท่องเที่ยวก็เพื่อให้ประชาชนหรือสังคมทั่วไปได้เข้ามาเยี่ยมชมการฝึกอาชีพของกลุ่มผู้ต้องขัง มาท่องเที่ยวเพื่อผักผ่อนหย่อนใจ และร่วมสนับสนุนงานฝีมือเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับผู้ต้องขังด้วย
นายอายุตม์ กล่าวด้วยว่า งานอาชีพยังมีอีกหลากหลายทั้งการทำการเกษตร การเลี้ยงสัตว์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้ผู้ต้องขังมีจิตใจที่อ่อนลง รู้จักรักสัตว์ อีกทั้งมีโครงการฝึกให้ผู้ต้องขังรู้จักพอกินพออยู่ พอใช้พอประมาณ ตามโครงการโคกหนองนา เมื่อผู้ต้องขังพ้นโทษก็จะได้นำความรู้ที่ได้เหล่านี้ไปประกอบอาชีพดำรงอยู่ได้ด้วยตนเอง อยากให้ประชาชนทั่วไปได้เข้ามาท่องเที่ยวเห็นความตั้งใจในการฝึกอาชีพผู้ต้องขังเหล่านี้ สร้างโอกาสให้ผู้ต้องขังได้มีงานทำ
“พื้นที่เรือนจำชั่วคราวเป็นพื้นความมั่นคงต่ำ กลุ่มผู้ต้องขังก็เป็นผู้ต้องชังชั้นดี และใกล้จะพ้นโทษแล้ว กลุ่มคนเหล่านี้เป็นมิตรและไม่เป็นอันตราย ซึ่งเรือนจำในปัจจุบันไม่ได้เป็นสถานลงโทษผู้กระทำผิดเหมือนในอดีต แต่เป็นสถานที่บำบัดพื้นฟูผู้กระทำผิดให้กลับมาเป็นคนดี การให้โอกาสผู้ที่ทำผิดพลาดให้มีอาชีพและอยุ่ในสังคมได้ก็จะทำให้การกระทำผิดต่างๆนั้นน้อยลง และหวังอย่างยิ่งว่าโครงการเรือนจำเป็นแหล่งท่องเที่ยวจะช่วยสร้างบันดาลใจและช่องทางการประกอบอาชีพให้กับผู้ต้องขัง เพื่อไม่ให้เมื่อพ้นโทษออกไปแล้ว ไปกระทำผิดและวหวนกลับเข้ามายังเรือนจำอีก”นายอายุตม์ กล่าว.